
สลดเด็กนักเรียน วัย 8 ขวบ จมน้ำในสระว่ายน้ำของโรงเรียนก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ผู้เป็นแม่วอนเอาเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์กับครอบครัวอื่น ควรจะดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เอาผิดใครถือเป็นอุบัติเหตุ ด้าน ผอ.เก็บตัวเงียบไม่ให้ข้อมูลใดๆ
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งแหล่งข่าวว่า มีเด็กชายวัยประมาณ 8 ขวบ เข้ามารักษาตัวที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลลำปาง เพราะประสบเหตุจมน้ำไม่ได้สติ แต่ต่อมาได้เสียชีวิตลงจากอาการน้ำท่วมปอด โดยหลังจากนั้นทางพ่อแม่ญาติพี่น้องได้นำศพเด็กไปทำบุญที่วัดพระเจ้าทันใจ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นมีผู้คนได้แสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานาผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการช่วยเหลือและการดูแลขณะเด็กลงไปเล่นน้ำในสระของโรงเรียน เพื่อความกระจ่างในเรื่องที่เกิดขึ้นผู้สื่อข่าวจึงพากันเดินทางไปยังวัดพระเจ้าทันใจ ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลของเด็กชายที่เสียชีวิต ซึ่งเมื่อไปถึงบริเวณศาลาของวัด ก็ได้พบผู้เป็นแม่ของเด็กซึ่งยืนคอยต้อนรับผู้คนที่มาร่วมงานของลูกชายตนเอง โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก ทราบว่าลูกชายเรียนอยู่โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง อายุได้ 8 ขวบเป็นคนน่ารัก ร่าเริงแจ่มใส เป็นที่รักและรู้จักของบุคคลและชาวบ้านทั่วไป กำลังจะขึ้นในระดับประถมศึกษาปีที่ 2
และเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนเองได้พาลูกชายที่เสียชีวิต พร้อมลูกชายคนเล็กอีกคน ไปว่ายน้ำในสระว่ายน้ำของโรงเรียนที่ลูกชายได้เรียนอยู่ ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเองได้พาลูกคนเล็กไปเข้าห้องน้ำ โดยปล่อยให้ลูกชายคนโตเล่นน้ำอยู่ในสระ ท่ามกลางเด็กคนอื่นที่เรียนว่ายน้ำ แม่ของเด็กเล่าว่า หลังที่พาลูกคนเล็กออกจากห้องน้ำประมาณ 5 นาที กลับมาก็ไม่พบตัวลูกชายคนโต จึงออกเดินหา กระทั่งพบว่าตัวลูกชายจมอยู่ใต้สระว่ายน้ำแล้ว จากนั้นผู้คนในบริเวณดังกล่าวจึงช่วยกันเอาร่างขึ้นมาจากใต้สระ และช่วยกันปฐมพยาบาลก่อนจะส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปางเป็นการด่วน เพราะลูกไม่รู้สึกตัวในตอนนั้น
กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 3 พ.ค. ลูกชายได้เสียชีวิตลง และได้นำมาทำบุญที่วัดพระเจ้าทันใจ และจะทำการฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ค.59 นี้ โดยทางมารดาของเด็กชายที่เสียชีวิต แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่าทางครอบครัวไม่ได้กล่าวโทษหรือติดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นอุบัติเหตุ จากการสูญเสียครั้งนี้ทางโรงเรียนก็ได้ให้การช่วยเหลือในทุกเรื่อง ซึ่งตนเองก็อยากฝากเป็นอุทาหรณ์สอนใจ ให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองท่านอื่นๆเอาไว้ว่าควรจะดูแลลูกๆอย่างใกล้ชิดกว่านี้ ซึ่งไม่อยากให้เกิดความสูญเสียกับครอบครัวอื่นอีก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อสอบถามแนวทางการดูแลความปลอดภัยของเด็กที่เข้ามาใช้บริการ แต่ไม่มีผู้รับสายแต่อย่างใด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1077 วันที่ 6 - 12 พฤษภาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น