เกษตรกรชาว อ.ห้างฉัตร ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจสืบสวน หลอกโอนเงิน สูญ 55,000 บาท เพิ่งกู้จาก ธกส.เพื่อนำไปปลูกมันสำปะหลัง ด้าน ผช.ผจก.ธกส.ห้างฉัตร รุดเยี่ยมให้กำลังใจ ขยายเวลาใช้หนี้ให้ 1 ปี
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.59 นายชัยวัฒน์ ขัดทวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร ธกส.สาขาห้างฉัตร ได้เข้าพบนางธาดารัตน์ ไชยโส อายุ 43 ปี ชาวบ้านบ้านล้อง ต.หนองหล่ม อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นลูกค้า ธกส.สาขาห้างฉัตร เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ
หลังจากที่นางธาดารัตน์ ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินให้ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้สูญเงินไปจำนวน 55,000 บาท ด้านนางธาดารัตน์ เล่าว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จากหมายเลข 091-556-5413 พร้อมแจ้งว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนพิเศษ ชื่อ ร.ต.อ.พิชัย จำนามสกุลไม่ได้ โดยบอกว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันยักยอกเงินกับเจ้าหน้าที่ ธกส.ห้างฉัตร และ ธกส.อำเภอเมือง คนเป็นระดับหัวหน้าโดนไล่ออกไปแล้ว แต่คนที่ทำงาน ธกส.ห้างฉัตร ยังทำงานอยู่ ซึ่งตนเองก็สงสัยเลยถามว่าเขาเอาชื่อไปได้อย่างไร เขาก็บอกว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร และลายเซ็นของตนเองไปใช้ในการเปิดบัญชีในการยักยอกเงินระหว่างสองสาขา ซึ่งตนเองก็บอกว่าไม่ได้ทำผิดอะไร เขาเลยบอกว่าจะกันตัวเป็นพยานไม่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่ทั้งนี้ต้องร่วมมือกับเขา โดยให้นำเอกสารบัตรประชาชนและสมุดเงินฝากของ ธกส.ทั้งหมด เพื่อไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงให้นำสมุดไปปรับ แล้วเข้าไปถอนเงินให้คงเหลือในบัญชีไว้ 1,000บาท และหากพนักงานถามก็ไม่ต้องบอก และเมื่อเข้าไปขอให้สังเกตคนชื่อกัลยาด้วย ว่าเขาทำงานอยู่ตรงนี้หรือไม่ หากคนคนนี้ทำงานอยู่และคุณทำตัวมีพิรุธเขาจะไหวตัวทัน และการรวบรวมหลักฐานจะสะดุดไป ตนเองหลงเชื่อจึงรีบเข้าไปถอนเงิน ซึ่งตลอดเวลาเขาจะไม่ให้ปิดโทรศัพท์ และจะพูดสั่งการทั้งหมดตลอดเวลา มีคนมาสลับสับเปลี่ยนพูดคุยด้วยถึง 3 คน อ้างทั้งยศ พ.ต.อ. พ.ต.ท. พยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้วางสาย เพราะจะไม่ปลอดภัยกับตนเอง และเหมือนกับรู้ความเคลื่อนไหวของตนตลอด
นางธาดารัตน์ เล่าต่อว่า หลังจากถอนเงินออกมาก็ให้นำเงินมาใส่ที่ตู้ ATM ธนาคารกรุงเทพ เพื่อตรวจสอบลายน้ำของเงินดังกล่าว โดยให้โอนเงินทุกบัญชีของตนที่มี รวมได้ 56,000 บาท ไปที่บัญชี ธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี วารีรัตน์ ลำปานิล สาขาพัฒนาการ เลขที่บัญชี 1984 7 100 69 ซึ่งตนเองได้โอนก่อน 6,000บาท แต่เงินเด้งคืนมา 1,000 บาท ตอนนั้นก็ยังกังวลว่าจะถูกหลอก จึงบอกกับนายตำรวจไปว่าโอนให้แค่นี้พอหากจะจับก็ให้มาจับที่ลำปาง นายตำรวจนายนั้นก็บอกอีกว่า ทำงานในเรื่องนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ผมเอาตำแหน่งรับประกัน หากคุณไม่โอนเงินมาให้ตรวจสอบทั้งหมด ผมก็จะต้องลำบากอาจจะถึงกับต้องออกจากงานแล้วลูกเมียผมจะทำอย่างไร และก็ไม่รู้อะไรดลใจให้ตนเองเอาเงินโอนไปอีก 50,000 บาท หลังจากนั้นนายตำรวจนายนั้นก็บอกว่าไม่เกิน 15-20 นาที เงินก็จะโอนกลับมา หากไม่เชื่อใจก็ให้เอาสลิปเงินที่โอนไปแจ้งความที่ สภ.ได้ หลังจากนั้นก็หยุดการติดต่อกันไป ตนเองรอเกือบชั่วโมงก็ไม่มีเงินโอนเข้ามา จึงรู้ว่าถูกหลอกและได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกลับไปแต่หมายเลขดังกล่าวปิดเครื่องไม่สามารถติดต่อได้แล้ว จึงแจ้งความไว้กับ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ เพชรตา รอง สว.(สอบสวน) สภ. ห้างฉัตร
นางธาดารัตน์ ระบุว่า ตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ยอมถอนเงินแล้วโอนไปให้เขา ในเมื่อเราก็ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาอาจจะมีจิตวิทยาสูงที่จะหลอกล่อเราโดยพูดเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมอยู่ตลอด แต่พอรู้ว่าถูกหลอกถึงกับเป็นลม เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง แถมเป็นบัญชีลูกอีกหนึ่งบัญชี ซึ่งเพิ่งกู้เงินมาเมื่อต้นเดือน พ.ค. 59 เพื่อจะทำไปลงทุนทำไร่มันสำปะหลัง แต่มาถูกหลอกเอาไปทั้งหมด เสียใจมากว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นกับตนเองเพราะเราทำมาหากินสุจริต
นายชัยวัฒน์ ขัดทวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคาร ธกส.สาขาห้างฉัตร ได้กล่าวว่า กรณีของลูกค้ารายนี้ได้กู้ยืมเงินจากธนาคารมา 50,000 บาท แต่ก็ถูกมิจฉาชีพหลอกเอาไปจนหมด ทางธนาคารก็จะช่วยในการติดตามเรื่องทางคดีให้อย่างใกล้ชิด โดยได้เช็คหมายเลขบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินเข้าไป ไปที่ธนาคารกรุงเทพ ซึ่งทางธนาคารกรุงเทพ แจ้งว่า จะต้องคัดสำเนาใบแจ้งความ พร้อมกับให้ทางพนักงานสอบสวนทำเรื่องเป็นเอกสารมาให้ เพื่อจะนำไปตรวจสอบตามชื่อบัญชี
ส่วนเงินกู้เนื่องจากลูกค้าจะต้องส่งในปี 2560 นี้ และด้วยเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นทางธนาคารก็จะขยายเวลาในการผ่อนชำระออกไปให้อีก 1 ปี โดยระหว่างนี้ลูกค้าก็ยังสามารถกู้เงินมาใช้เพื่อทำการเกษตรกรได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1081 วันที่ 3 - 9 มิถุนายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น