การท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสเรียนรู้ภูมิปัญญาของท้องถิ่นนั้น กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆใครที่ชอบการท่องเที่ยวแนวนี้ คงรู้ว่ามันสามารถเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ แต่ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปแบบเต็ม ๆ และนี่คือเทรนด์ใหม่ของการท่องเที่ยวในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีการชูแนวคิด The Unique Thai Local Experiencesเพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ ต่อการท่องเที่ยววิถีชุมชน ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงคุณค่า และเกิดการส่งต่อความรู้ ความประทับใจไปยังผู้อื่น เพื่อสร้างการท่องเที่ยวคุณภาพอย่างยั่งยืน
ปีหน้านี้ การโปรโมตการท่องเที่ยวจะกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางเสาะหาประสบการณ์ท้องถิ่นที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ซึ่งก็สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปจากแต่ก่อน เพราะทุกวันนี้
นักท่องเที่ยวเริ่มให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ในระหว่างการเดินทางมากขึ้น ไม่เน้นเที่ยวแบบฉาบฉวยอีกต่อไปแล้ว
นำไปสู่แนวคิด Local Experience อันสื่อถึงประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น
ที่จะทำให้การเดินทางมีความหมายยิ่งขึ้น โดย ททท. จะพัฒนาสินค้า บริการ และกิจกรรม
ที่พร้อมส่งมอบให้ตลาดในประเทศนำไปเสนอขาย นำเสนอสินค้าและบริการตามแนวคิด
Local Experience เพื่อตอบสนองกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
ไม่ว่าจะเป็น Health & Wellness / 7 Greens / Honeymoon & Wedding / Sport Tourism / Luxury / Yacht / Agro
Tourism / Community Based Tourism / Gastronomy
/ Shopping / Halal / ASEAN
Connectivity / Local Vehicle
ดู ๆ แล้วน่าจะมีหลายแบบที่เป็นจุดขายของเมืองลำปางเราได้
ไม่ว่าจะเป็นAgro Tourism / Community Based
Tourism / Health & Wellness หรือแม้แต่
Local Vehicle
Agro Tourism หรือการท่องเที่ยวเชิงเกษตรนั้น
จะว่าไปแล้วการเกษตรก็คือรากฐานของสังคมไทย
เมืองลำปางมีแหล่งปลูกข้าวไรซ์เบอร์รีทั้งที่อำเภอเมืองปานและอำเภอแม่ทะ บางหมู่บ้านยังร่วมใจกันไม่ใช้สารเคมีโดยสิ้นเชิง
อย่างบ้านสามขา อำเภอแม่ทะ โดยเราอาจจัดท่องเที่ยวเส้นทางข้าว หรือเที่ยววิถีข้าวแบบที่ทางภาคกลางเขาจัดกันให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ชีวิตกลางทุ่ง
ลุยโคลน ปักกล้า เล่นน้ำ จับปลา ทำหุ่นไล่กาด้วยก็น่าสนุกดี เรายังมีไร่กาแฟบ้านป่าเหมี้ยงและแหล่งปลูกพืชเมืองหนาวที่บ้านแม่แจ๋ม
อำเภอเมืองปานบ้านปางมะโอเพาะเห็ดหอม อีกทั้งยังปลูกสตรอว์เบอร์รีในช่วงฤดูหนาว ส่วนที่บ้านเสด็จ
อำเภอเมืองฯ ก็เต็มไปด้วยไร่สับปะรด เห็นมีบริษัททัวร์พาฝรั่งมาแวะเที่ยวกันมากมาย
Community Based Tourism (CBT) ชุมชนเล็ก ๆ ของเราก็กระตือรืนร้นในการต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย
ชุมชนที่โด่งดังอย่างชุมชนบ้านปงสนุกนั้น คลุกคลีอยู่กับการท่องเที่ยวมานานแล้ว
ชุมชนท่ามะโอก็เป็นชุมชนเก่าแก่ ชุมชนบ้านศาลาเม็งและบ้านศาลาบัวบก อำเภอเกาะคา เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเซรามิกในรูปแบบอุตสาหกรรมในครัวเรือน
ซึ่งนักท่องเที่ยวชื่นชอบกันมาก ส่วนชุมชนบ้านท่าสีอยู่ห่างออกมาในอำเภอแม่เมาะ
จัดทำเส้นทางพานักท่องเที่ยวเดินป่าไปชมภาพเขียนสีโบราณและเข้าถ้ำ น่าสนใจทีเดียว
Health & Wellness
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จุดเด่นของเราคือน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน
ซึ่งคนรักสุขภาพรู้ดีว่า การแช่น้ำแร่ร้อนนั้น มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ
และปัจจุบันอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนก็ปรับภูมิทัศน์ในอุทยานฯ
รวมทั้งแปลงโฉมพื้นที่สำหรับแช่น้ำแร่จนสวยงาม น่าไปใช้บริการ
แบ่งเป็นอาคารแช่แบบรวม อาคารแช่แบบส่วนตัว และบ่อตื้น ๆ สำหรับนั่งแช่เท้าใต้ร่มเงาไม้
นอกจากนี้ ก็ยังมีชมรมรักษ์สมุนไพรลำปาง แหล่งผลิตสมุนไพรแบบครบวงจร
ทั้งยังมีไทยสปา ซึ่งเป็นส่วนของการปรนนิบัติสุขภาพและความงามด้วย
Local Vehicle อันนี้น่าสนใจ
เรามีรูปแบบของพาหนะที่หลากหลาย ที่สำคัญ ยังเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพราะไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (อีกอย่าง เราน่าจะให้ความสำคัญกับ Low
Carbon Tourism) ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน
ซึ่งทางเทศบาลนครลำปางมีให้ยืมฟรี ๆ และตามเกสต์เฮาส์ก็มีไว้ให้แขกอยู่แล้ว
ด้านรถม้านี่แน่นอนว่าคือไฮไลต์เลยก็ว่าได้ เดี๋ยวนี้มีการนัดรถม้าไปรับถึงที่พัก
เหมาเป็นรายชั่วโมงให้พาไปเที่ยวดูโน่นดูนี่ พาไปกินข้าว กินกาแฟ
พอถึงเวลาก็กลับที่พักส่วนรถสามล้อถีบเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพียงแต่ทุกวันนี้บ้านเราหลงเหลือคนถีบสามล้อน้อยลงเรื่อย
ๆ อาจด้วยบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลง
รถสามล้อถีบจึงแทบจะเป็นพาหนะที่หายไปจากสังคมเมืองลำปาง
ทั้งที่หากมีการจัดการที่ชัดเจน ก็น่าจะเป็นจุดขายของเราได้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1093 วันที่ 26 สิงหาคม - 1 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น