หนุ่มซิ่งคัมรี่ ชนเสาเหล็ก ดับอนาถคาที่

จำนวนผู้เข้าชม

หนุ่มห้างฉัตรลำปาง ซิ่งเก๋งด้วยความเร็วพุ่งชนเสาป้ายบอกทางขนาดใหญ่ ล้มขวางถนน ส่วนตัวเองร่างกระเด็นออกจากตัวรถเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ไล่เลี่ยกันเกิดมีเหตุซ้ำซ้อนขณะรถทัวร์โดยสารจะนำคนไปส่งเชียงใหม่เกิดพุ่งลอดไม่พ้นป้ายทำให้รถเสียหาย ดีผู้โดยสารไร้เจ็บ

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2559 เวลา 04.55 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภูธร จ.ลำปาง รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนป้ายขนาดใหญ่ซึ่งเป็นป้ายบอกเส้นทาง บริเวณหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง ถนนลำปาง – เชียงใหม่ ทำให้มีคนเสียชีวิตในบริเวณที่เกิดเหตุจำนวน 1 ราย  เบื้องต้นทางกู้ชีพกู้ภัยเทศบาลตำบลปงยางคก กู้ชีพกู้ภัยเทศบาลห้างฉัตรแม่ตาล(จามเทวี) จึงรีบไปตรวจสอบเหตุเบื้องต้นก่อน

จากนั้นทาง ร.ต.อ.รุ่งเรืองชัย อุปการะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้างฉัตร จึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลห้างฉัตร ที่เกิดเหตุ อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 471-469 บ้านทุ่งบ่อแป้น หมู่ที่ 2 ตำบลปงยางคก อ.ห้างฉัตร จากการตรวจสอบพบว่าตอม่อด้านข้างซ้ายมือขาขึ้นอำเภอห้างฉัตร ซึ่งเป็นเสาเหล็กขนาดใหญ่เพื่อตั้งป้ายบอกทางได้หักลงทำให้คาน แผ่นป้ายขวางถนนอีกฝั่งหนึ่ง ในบริเวณเดียวกันนั้นพบมีรถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กท 1011 ลำปาง สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน คนขับกระเด็นออกมานอกรถ เสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อต่อมาคือ นายภาณุพงศ์ ใจเที่ยง อายุ 26 ปี เป็นราษฎรบ้านเลขที่ 482 หมู่ 6 ต.ปงยางคก อ.ห้างฉัตร ในที่เกิดเหตุยังพบรถทัวร์สีฟ้า-ขาว ของบริษัท นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง 10-2874 ลำปาง สภาพหัวรถด้านบนกระจกแตก จอดอยู่ 1 คันมีผู้โดยสารอยู่ประมาณ 17 คน

ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุนายภาณุพงศ์ น่าจะขับรถเก๋ง ด้วยความเร็วมาจากตัวเมืองลำปางเพื่อจะกลับบ้านในตำบลปงยางคก แต่คงจะเกิดหลับในจนทำให้รถเกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนเสาป้ายขนาดใหญ่จนหักโค่น รถเสียหายพังยับ ส่วนตัวเองเสียชีวิตทันที

ส่วนรถทัวร์ที่จอดอยู่ข้างทางจากการสอบสวนนายอำนวย กุลสวัสดิ์ คนขับรถทัวร์ ให้การว่า ขณะที่ตนเองได้ขับรถจะมุ่งหน้าเข้าจังหวัดเชียงใหม่ พอมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า ป้ายบอกทางล้มลงขวางถนนอยู่ แต่คิดว่ารถน่าจะลอดผ่านได้จึงขับลอดผ่าน แต่ท้ายสุดส่วนด้านหลังคาไปเกิดชนคานป้ายจนทำให้รถเกิดความเสียหายจึงนำรถจอดข้างทางซึ่งกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นอีก ดีที่ผู้โดยสารในรถไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด  กระทั่งในรุ่งเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องได้ทำการรื้อป้ายที่ล้มขว้างอยู่ออกเพื่อเปิดการจราจรได้ตามปกติ

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1094 วันที่ 2 - 8 กันยายน 2559)