
ช่วงนี้ฝนตกบ่อย บางท่านยางรถใช้มาหลายปี ได้เวลาต้องเปลี่ยนยางใหม่ แต่เศรษฐกิจก็ดันไม่ดี จึงมีความสามารถเปลี่ยนแค่ทีละสองล้อ ทีนี้ปัญหาเกิดละครับว่าไอ้ยางใหม่ที่ซื้อมา จะใส่แทนยางคู่หน้าหรือคู่หลัง?!?!
ตั้งแต่ในอดีตเป็นต้นมา
เรามีความเข้าใจกันว่า ยางใหม่ให้ใส่ที่ล้อคู่หน้า
โดยไม่ต้องสนใจว่าล้อขับเคลื่อนของรถรุ่นนั้นอยู่ที่ล้อคู่หน้าหรือคู่หลัง
ด้วยเหตุผลที่ว่าล้อหน้ารับน้ำหนักจากเครื่องยนต์มากกว่า และใช้บังคับเลี้ยว
ประกอบกับตอนเบรกน้ำหนักก็มาลงด้านหน้า จึงต้องใช้ยางใหม่ที่ให้แรงเสียดทานที่สูงกว่า หัวข้อนี้น่าจะขัดกับความรู้สึกของคนใช้รถส่วนใหญ่
เพราะเป็นความเชื่อที่ปลูกฝังมานานว่า ถ้าเปลี่ยนยางใหม่แค่ 2 เส้น ต้องเอายางใหม่ไว้ด้านหน้าเสมอ
แต่ถึงวันนี้วิศวกรบริษัทยาง
ต่างคำแนะตรงกันว่า ยางใหม่ (กว่า) ต้องใส่ไว้ที่ล้อคู่หลังต่างหาก
ประเด็นหลังสุดเรื่องเบรกเป็นเดียวกันกับความเชื่อเดิมนั่นแหละ
แต่ผู้ผลิตยางให้เหตุให้ผลสวนทางกันเลยครับ คือ
ตามหลักฟิสิกส์เวลาที่เราเหยียบเบรก โมเมนตัมจะถูกถ่ายเทมาด้านหน้า
ทำให้ล้อคู่หน้ามีแรงกดเพิ่มมากขึ้นยางก็จะมีแรงกดกับผิวถนนมากยิ่งขึ้นอยู่แล้ว แต่ล้อคู่หลังนั้นกลับจะมีแต่แรงยก
หน้ายางพยายามลอยพ้นจากพื้นตลอดเวลา สังเกตเวลาที่เราเบรกแรงๆ
ก็จะเกิดอาการหน้าทิ่มท้ายยก การยกตัวของล้อหลัง
ทำให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนลดลง ในเคสนี้ "ยางใหม่"
จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้ดีกว่า ช่วยลดปัญหาเรื่องอาการท้ายปัด
หรือล้อหลังล็อคได้ดีกว่า ยิ่งกว่านั้นในกรณีที่เข้าโค้งแรงๆ
ยางใหม่จะช่วยให้ล้อหลังมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้ดีกว่า
และช่วยลดอุบัติเหตุจากอาการท้ายกวาดจนรถหมุน ซึ่งควบคุมได้ยากสำหรับคนขับรถทั่วไป
บริษัทยางให้ความสนใจในประเด็นนี้มาก
เพราะมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดจากการไม่สามารถควบคุมได้
ส่วนเรื่องระบบขับเคลื่อนอยู่ที่ล้อคู่ไหน การรับน้ำหนัก และการบังคับเลี้ยว
ที่เรามักจะให้น้ำหนักมากกว่าเวลาจะเปลี่ยนยางที่ละคู่
แล้วเราจะจับมันใส่ล้อคู่หน้า ความเห็นส่วนตัวของผมก็เห็นว่าไม่ผิดหรอก แต่ผู้ผลิตยางเค้าถือเป็นประเด็นรองและให้น้ำหนักน้อยกว่าในด้านความปลอดภัย
ซึ่งผ่านการทดสอบมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนได้ผลและข้อสรุปที่เอามาแนะนำได้
ผมพิจารณาแล้วแนะนำว่าก็ควรเชื่อและปฏิบัติครับ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1094 วันที่ 2 - 8 กันยายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น