พบแล้วงาช้างที่หายไป หลังเกิดอุบัติเหตุทัวร์ชนช้างล้มคาที่ 1 เชือก พบตกลงไปในร่องข้างถนน เจ้าหน้าที่ปูพรหมตรวจค้นหาและพบในที่สุด ด้านตัวแทนมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ไม่เรียกร้องค่าเสียหาย เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ
เมื่อเวลา
18.00 น.วันที่ 5 ต.ค. 2559 กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอห้างฉัตร
นำโดย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอห้างฉัตร พ.ต.ท.สมบูรณ์ ยานะ รอง ผกก.
สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ร.ต.สมเกียรติ อ้อชัยภูมิ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ
กองร้อยรักษาความสงบ มณฑลทหารบกที่ 32 สาขาอำเภอห้างฉัตร
เจ้าหน้าที่มูลนิธิคืนช้างสูธรรมชาติ กว่า 20 นาย ได้เดินปูพรมตรวจสอบจุดที่เกิดอุบัติเหตุ
รถโดยสารประจำทางชนช้างพลายอุดม อายุ 8 ปี เสียชีวิต และขณะนั้น งาได้หักและหายไปในขณะเกิดเหตุ
บนถนนสายลำปาง–เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59 ที่ผ่านมา
โดยงาช้างที่หักหายไป
1 ข้าง คือ งาข้างซ้ายยาวประมาณ 70 เซนติเมตร
น้ำหนักประมาณ 2 ก.ม.
ซึ่งหลังเกิดเหตุทางส่วนที่เกี่ยวข้องได้พยายามตรวจสอบและสืบสวนหางาช้างที่หายไป แต่ไม่สามารถเข้าตรวจยังจุดเกิดเหตุได้
เพราะในพื้นที่มีฝนตกหนักตลอดเวลาเป็นอุปสรรค์ในการค้นหา จนล่าสุด สภาพอากาศเปิด
ทางเจ้าหน้าจึงได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบและเดินค้นหาทุกตารางนิ้วอีกครั้ง
จนกระทั่งพบ งาช้างที่หักหายไปนั้นตกอยู่ในร่องระบายน้ำข้างถนนตรงจุดเกิดเหตุ
แช่อยู่ในโคลนและมีหญ้าปกคลุมไว้ แต่สภาพยังสมบูรณ์
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพในที่ตรวจพบ และทำการทันทึกการตรวจพบครั้งนี้ก่อนที่จะส่งมอบงาช้างคืนให้กับมูลนิธิคืนช้างสูธรรมชาติ
เพื่อดำเนินการขึ้นทะเบียนตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ต่อมาวันที่
3 ต.ค.59 มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ได้ส่งน.ส.นฤมล
สุขเสาร์ ตัวแทนลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ห้างฉัตร
แจ้งว่าช้างเชือกดังกล่าวได้ปล่อยคืนสู่ป่าเมื่อปี 55 เจ้าของได้ประเมินราคาช้างไว้ 1.4 ล้านบาท
แต่ไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ
โดยก่อนหน้านี้ทางมูลนิธิฯ
ได้มอบซากช้างพลายอุดรให้ศูนย์วิจัยฯ โรงพยาบาลช้างศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ผ่าชันสูตร
และทำพิธีเผาซากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอาการของนายนริศ
จิตตรง คนขับรถทัวร์ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว พักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ลำปาง โดยได้รับบาดเจ็บต้นขาหัก
และมีบาดแผลบริเวณใบหน้า แพทย์ได้ทำการรักษาโดยการผ่าตัดตกแต่งให้แล้ว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1099 วันที่ 7 - 13 ตุลาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น