
หนุ่มเชียงรายขับเทเลอร์
บรรทุกแบ๊คโฮจากเชียงใหม่มุ่งหน้าเข้าเชียงราย
ระหว่างทางขณะเข้าเขตอำเภอวังเหนือลำปาง รถเกิดดับตรงทางบริเวณทางโค้งและขึ้นเขา
ก่อนที่รถจะลื่นไถลตกลงเหวลึก เสียชีวิตอย่างน่าอนาถ
ส่วนเพื่อนที่มาด้วยรอดตายหวุดหวิด
เมื่อวันที่
19 ต.ค. 2559 เวลาประมาณ 17.30
น. ร.ต.อ.ศักดา หลวงภา รอง สว.(สอบสวน)
สภ.วังเหนือ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถพ่วงเทเลอร์ บรรทุกแบ๊คโฮ ตกเขา
บนทางหลวงแผ่นดิน 120 วังเหนือ –พะเยา
ช่วงกม.ที่ 23 – 24 พื้นที่ตำบลวังทอง อ.วังเหนือ เบื้องต้น
มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดอยู่กับซากรถ และบาดเจ็บ 1 ราย
หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ
จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ทราบตามลำดับชั้น
ต่อมาจึงเดินทางไปตรวจตามรับแจ้ง
ร่วมกับนายเอกกฤต จิตตางกูร หัวหน้า
ปภ.จังหวัดลำปาง สาขาวังเหนือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ชุด ERT ของศูนย์
ปภ.เขต 10 ลำปางพร้อมรถกู้ภัยเล็กและรถไฟฟ้าส่องสว่าง มีทั้งเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยของอำเภอวังเหนือ
จากจังหวัดเชียงใหม่ และใกล้เคียงอีกหลายหน่วย
โดยจุดเกิดเหตุเป็นเขาทางโค้งก่อนจะถึงน้ำตกธารทอง มีรถเทเลอร์ฮีโน่ สีขาว
บรรทุกแบ๊คโฮ ตกลงไปในเหวลึกประมาณ 120 เมตร
เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงใช้วิธีโรยตัวลงไปตรวจสอบ ซึ่งมีคนขับเสียชีวิตติดอยู่คารถ
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาช่วยกันลงไปงัดเอาร่างผู้เสียชีวิตที่ติดคารถอยู่ใต้เหวลึกนานกว่า
3 ชั่วโมงจึงสามารถนำร่างขึ้นมาได้
ตรวจสอบหลักฐานในตัวทราบต่อมาว่า ชื่อนายมิตร
นิลเพชร อายุ 44 ปี เป็นชาวจังหวัดเชียงราย โดยมีเพื่อนนั่งมาด้วยคือนายศิวพงศ์
ภัทรวิศิษฏิ์กุล อาการปลอดภัย
โดยนายศิวพงศ์
เพื่อที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างหวุดหวิด ให้การว่า ตนเองพร้อมผู้เสียชีวิต
ได้ไปขนรถแบ๊คโฮ มาจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะนำไปที่อำเภอเชียงของ
จังหวัดเชียงราย ระหว่างที่มาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและขึ้นเขา
รถเทเลอร์เกิดเครื่องดับกะทันหัน นายมิตร
ซึ่งเป็นคนขับจึงได้ลงรถไปตรวจเช็คน้ำมันเชื้อเพลิงและรอบรถ จากนั้น จึงได้ขึ้นมาสตาร์ทรถอีกครั้ง
จึงทำให้รถเกิดไหลถอยหลัง ตนเห็นท่าไม่ดี จึงกระโดดลงจากรถได้อย่างหวุดหวิด
ส่วนผู้เสียชีวิตกระโดดลงจากรถไม่ทัน จึงไถลตกเหวไปกับรถ และเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนสาเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังเหนือ
จะได้ทำการสอบสวนหาสาเหตุทีแท้จริงอีกครั้งต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1101 วันที่ 21 - 27 ตุลาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น