ช่วงปลายฝนต้นหนาวแหล่งท่องเที่ยวประเภทน้ำตกดูเหมือนจะกำลังสวยชุ่มชื่นเลยทีเดียว ลำปางเรานอกจากน้ำตกแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ที่มีชื่อเสียงแล้ว ก็ยังมีน้ำตกแม่แก้และน้ำตกเกาฟุในเขตอำเภองาวซึ่งแตกต่างจากน้ำตกแจ้ซ้อนตรงที่ทั้งสองแห่งเป็นน้ำตกหินปูน ช่วงไหนน้ำใสจะมองเห็นน้ำเป็นสีเขียวอ่อน ๆ ชวนให้นึกไปถึงน้ำตกในภาคตะวันตกอย่างน้ำตกเอราวัณและน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี
ด้วยความที่น้ำตกแม่แก้และน้ำตกเกาฟุ(รวมถึงหล่มภูเขียว)
ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาหินปูน สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ แบบขั้นบันได ผ่านบริเวณที่เป็นหินปูนก็ละลายหินปูนมาด้วย
เนื่องจากน้ำมีความเป็นกรดอ่อน ๆ สามารถละลายหินปูนได้
เมื่อสายน้ำไหลมาพบกับบริเวณที่มีความลาดชันและมีสิ่งกีดขวาง เช่น กิ่งไม้ หรือก้อนหิน
น้ำที่ไหลมาปะทะจะเกิดการชะลอตัวและมีการตกตะกอนของหินปูนสะสมเกาะจับอยู่ตามสิ่งกีดขวาง
ขณะเดียวกันก็พอกพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นคันกั้นน้ำและแอ่งน้ำ เมื่อเกิดเป็นระยะ
ๆ ตลอดพื้นที่ลาดชันจึงดูเหมือนกับเป็นขั้นบันไดตลอดความยาวของสายน้ำที่ไหลผ่าน
บางช่วงที่น้ำไหลตกจากที่สูงชัน
หินปูนก็อาจก่อตัวคล้ายกับหินย้อยในถ้ำอยู่ตามบริเวณผาชันนั้น
และที่เรามองเห็นน้ำตกหินปูนเป็นน้ำสีฟ้าอมเขียว
หรือสีเขียวอ่อน น่าลงเล่น ก็เนื่องจากหินปูน
หรือแคลเซียมคาร์บอเนตที่ละลายอยู่ในน้ำ รวมทั้งแร่ธาตุบางชนิดที่ปะปนอยู่ด้วย จะส่งผลให้สาหร่าย
หรือตะไคร่สีเขียวขนาดเล็กที่มักเจริญเติบโตในลำธารทั่ว ๆ
ไปไม่สามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้ แอ่งน้ำของน้ำตกหินปูนจึงไม่เป็นสีเขียว
แล้วเมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบ น้ำจะดูดกลืนคลื่นแสงสีแดงไว้
ทำให้มองเห็นพื้นของน้ำตกหินปูนเป็นสีฟ้าอมเขียวดูแปลกตา
น้ำตกแม่แก้นั้น เป็นน้ำตกเล็ก ๆ ใสสะอาด สูงประมาณ
10
เมตร สายน้ำไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเตี้ย ๆ อีกหลายชั้น
ข้อดีของน้ำตกหินปูนคือเดินแล้วไม่ลื่น
ความใสของน้ำยังทำให้สังเกตได้ชัดว่าตรงไหนตื้น ตรงไหนลึก
ส่วนน้ำตกเกาฟุอยู่ไม่ไกลจากน้ำตกแม่แก้ เป็นน้ำตกขนาดเล็กในพื้นที่สวนลิ้นจี่ของเกาฟุ
แซ่จิ๋ว ซึ่งเขาได้เป็นผู้นำในการพัฒนาและอนุรักษ์น้ำตกแห่งนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1104 วันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น