คนร้ายลักลอบปีนเข้าบ้านคนอื่นยามวิกาลเพื่อชิงทรัพย์ ดูดน้ำมันจากรถ จยย.ไปจุดไฟเผาบนชั้น 3 เจ้าของบ้านตื่นมาเจอ วิ่งไล่ตามไม่ทัน แต่คนร้ายดันทิ้งกางเกงและกระเป๋าสตางค์ไว้ ตำรวจจึงตามรวบได้คาที่นอน
เมื่อเวลาประมาณ 23.10 น. วันที่ 28 พ.ย. 2559 ร.ต.อ.สนธยา ปฐวี รอง สว.สอบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้รับแจ้งว่า
เกิดเหตุมีคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านเลขที่ 270 ถ.พหลโยธิน ต.ชมพู อ.เมือง
จ.ลำปาง อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านศรีปงชัย
หมู่ 6
พร้อมกับได้จุดไฟเผาบริเวณชั้น 3
ของอาคารได้รับความเสียหาย
หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน
ผกก.สภ.เขลางค์นคร พบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์
3 ชั้น เรียงกัน 4 คูหา หลังที่เกิดเหตุเป็นคูหาห้องที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายสันติพงษ์
ปิงแก้ว อายุ 44 ปี
เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน ยืนรอให้การอยู่ จึงได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น
นายสันติพงษ์ ปิงแก้ว เล่าว่า ตนเองรับราชการอยู่สำนักงานสรรพสามิตลำปาง
ภรรยามีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟที่ถนนนาก่วมตรงข้ามธนาคารกรุงไทยฯ
มีบุตรสองคนเป็น หญิง 1 ชาย 1 ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ออกไปช่วยภรรยาขายเย็นตาโฟ
และได้พาลูกชายวัย 10 ขวบกลับมาพักผ่อนที่บ้าน เวลาประมาณ
22.15 น. โดยได้พักที่ห้องนอนบนชั้น 3 ของอาคาร กระทั่งเวลาประมาณ
23.00 น. ตนเองรู้สึกร้อน จึงลุกขึ้นเปิดประตูเพื่อจะเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่หน้าห้องนอน
เมื่อจับลูกบิดกระตกใจ เพราะร้อนมาก เมื่อเปิดออกไปก็เห็นไฟลุกเข้ามา
ตนตกใจมากจึงรีบดันประตู และเอาหมอนข้างมาตีเพื่อดับไฟ ซึ่งไฟได้ไหม้เตาไมโครเวฟราวตากผ้า
และเสื้อผ้าส่วนหนึ่ง แต่ตนก็สามารถดับไฟได้และเรียกลูกชายให้ตื่นในขณะเดียวกันก็ตะโกนบอกแม่และหลานที่นอนอยู่ในห้องชั้น
2 ว่าไฟไหม้
พร้อมกับได้พาลูกชายวิ่งลงมาจากชั้น 3 ก็พบชายวัยรุ่นคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องนอนของแม่
ตนก็ได้ยินแม่ยายโวยวายว่ามีคนเข้ามา จึงวิ่งตามลงไป
และเห็นคนร้ายวิ่งเข้าไปในครัว ตนกลัวว่าคนร้ายจะไปหยิบมืดพร้าหรืออาวุธมาทำร้าย จึงวิ่งไปตั้งหลักด้านหน้าของอาคาร
และหยิบได้สกู๊ตเตอร์เหล็กเพื่อจะป้องกันตัว แต่ตนเองดันลื่นหกล้มแขนฟาดกับพื้น เกิดแขนเดาะ
ยังพยายามจะวิ่งตามคนร้ายไป แต่ก็ไม่ทันเพราะคนร้ายวิ่งเร็วมาก และเลี้ยวเข้าไปในซอยขวามือ
ก่อนถึงวัดศรีปงชัย
จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบอาคาร
พบว่า ด้านหน้ามีรถยนต์สองคันจอดอยู่ภายในห้องโถงชั้น 1 และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 2 คัน คันหนึ่งถูกเปิดฝาน้ำมันออก โดยพบฝาน้ำมันตกอยู่ข้างรถ ด้านหลังบ้าน บริเวณห้องครัวที่บานเกล็ดมีร่องรอยการถอดออกไปสองแผ่น
เพื่อเอามือล้วงมาเปิดลูกปิดประตู และพบว่าบนหลังคาหลังบ้านนอกห้องครัวมีกระเบื้องถูกถอดออก
1 แผ่น คาดว่าคนร้ายน่าจะ เข้ามาทางด้านหลังเพราะนอกอาคารมีต้นไม้ขึ้นรก ส่วนบริเวณชั้น 3
ที่ถูกไฟไหม้ พบว่ามีข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณด้านนอกบ้าน ที่คาดว่าคนร้ายปีนเข้ามา พบกางเกงยีนส์ขายาว 1
ตัววางอยู่บนถังเปล่า พร้อมกับกระเป๋าสตางค์ตกอยู่
จึงได้นำมาตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้
ต่อมาวันที่
29 พ.ย.59 เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ได้ควบคุมตัว นายวรพล บุญมาปลูก อายุ 19 ปี ที่บ้านเลขที่ 158/12 ถ.ท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย
อ.เมือง จ.ลำปาง มาทำการสอบสวน
หลังจากได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอาคาร และตามหลักฐานบัตรประชาชนที่พบในกระเป๋าสตางค์ที่ตกอยู่
เป็นบุคคลเดียวกัน เบื้องต้น ผู้ถูกกล่าวหา
รับสารภาพว่า ตนเองทะเลาะกับแฟนสาวจึงเดินมาเรื่อยๆ จนถึงอาคารที่เกิดเหตุ
จึงได้ปีนเข้าไปทางด้านหลัง เพื่อต้องการเข้าไปขโมยเงิน ซึ่งได้มา 2,000 บาท ส่วนสาเหตุที่จุดไฟเผาเสื้อผ้าเพื่อป้องกันไล่ติดตามได้ทันได้ หลังจากก่อเหตุก็ได้หลบหนีกลับไปนอนที่บ้านของตนเอง
กระทั่งถูกตามจับตัวได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการเก็บลายนิ้วมือและดีเอ็นเอไว้ตรวจเปรียบเทียบกัน ก่อนจะนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1107 วันที่ 2 - 8 ธันวาคม 2559)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น