
จะว่าไปแล้วการเลี้ยงการเลี้ยงแพะในประเทศไทยของเรามีมายาวนานมาก ขณะที่กระแสการบริโภคเนื้อแพะ น้ำนมแพะเพื่อสุขภาพก็เริ่มมาแรง เกษตรกรทั่วไปนิยมเลี้ยงแพะเป็นอาชีพเสริมและบางรายเลี้ยงเป็นอาชีพหลักทำรายได้ปีหนึ่งเป็นหลักแสนเพียงเพราะแพะเป็นสัตว์ เลี้ยงง่าย ประเภทเคี้ยวเอื้องขนาดเล็ก กินหญ้าเป็นหลักเช่นเดียวกับโคและกระบือ ต้นทุนการเลี้ยงจึงอาศัยเพียงสภาพแวดล้อมและแหล่งอาหารธรรมชาติ และส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงแบบให้อาหารจากธรรมชาติ และขายเนื้อ หรือนมเป็นผลิตภัณฑ์แพะอินทรีย์

ธรรมชาติของแพะนอกจากเลี้ยงง่าย
มีต้นทุนการเลี้ยงไม่สูง มีโรคน้อย เพราะแพะกินหญ้า ผักกฐิน ไม้พุ่มทั่วไป โตเร็ว อายุ
10-12 เดือน ก็สามารถผสมพันธุ์ได้ ใช้เวลาอุ้มท้อง 5 เดือน ก็จะให้ลูก
และบางครั้งยังให้ลูกแฝด โอกาสในการเพิ่มจำนวนสมาชิกในคอก ลูกแพะ อายุ6เดือนน้ำหนัก25-30กก.ก็ขายเป็นเนื้อได้ ปัจจุบันราคาซื้อขายแพะประมาณกิโลกรัมละ90-100บาท ตลาดมีความต้องการสูง

เอกรัตน์
มีเมล์ เกษตรกรรุ่นใหม่ที่หันมาเลี้ยงแพะ
บอกว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวเขาทำเกษตรเป็นอาชีพหลัก โดยเฉพาะการทำไร่ข้าวโพด
ได้ผลตอบแทนต่ำ ราคาผลผลิตไม่แน่นอน จึงหาทำเกษตรแนวอื่นบ้าง จึงทดลองเลี้ยงแพะ
จากคำแนะนำของเพื่อน ซึ่งพบว่าการเลี้ยงแพะเป็นทางออกที่ดี
เพียงแค่มีพื้นที่ในการเลี้ยงมีคอกกั้นมีร่มเงา
มีเรือนนอนเกษตรส่วนใหญ่มีพื้นที่เหลือก็ทำคอกในบ้านตัวเองได้เพราะแพะเป็นสัตว์ที่ไม่มีกลิ่นจากมูลรบกวนที่อยู่อาศัยเหมือนสัตว์ชนิดอื่น
อาหารก็ปล่อยธรรมชาติบ้าง หญ้าทั่วไปส่งป้อนในคอกสลับกัน
แพะรุ่นแรกที่เขาเลี้ยงเมื่อปีที่แล้ว ลงทุนเพียง40,000บาท ได้ลูกแพะมาประมาณ20ตัว
เลี้ยงเก็บเป็นแม่พันธุ์บางส่วน ขายไปบางส่วน1ปีได้ลูกแพะ2รุ่นขายไปแล้วมีรายได้หลักแสน แถมยังเหลือลูกแพะรุ่นที่3เพิ่มขึ้นอีก40ตัว
เขาสรุปชัดเจนว่าการเลี้ยงแพะให้ผลตอบแทนสูง มีโอกาสทำรายได้ดีกว่า
และเหนื่อยน้อยลงจากการทำพืชไร่ที่เคยทำค่อนข้างมาก
เช่นเดียวกับครอบครัวของสายันต์
เปลี่ยวญาติสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงแพะชาววัง ที่หันมาเลี้ยงแพะเสริม
จนเกือบจะเป็นอาชีพหลักไปแล้ว ระบุว่า การเลี้ยงแพะทำรายได้ดี เหนื่อยน้อยลง
และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แหล่งน้ำ ลำธาร การพัฒนากลุ่มวิสาหกิจไปด้วยกันนี้จะ
ช่วยให้ผู้เลี้ยงแพะมีรายได้มากขึ้นนอกเหนือจากการขายแพะรุ่น แต่การแปรรูปน้ำนมแพะ
และปุ๋ยจากมูลแพะ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างรายได้ในชุมชน แม้ไม่ต้องมองตลาดไกลตัวมากเพียงแค่ขายในชุมชนให้คนท้องถิ่นได้ใช้บริโภคนมแพะ
หรือใช้ผลิตภัณฑ์นมแพะ ที่ผลิตในท้องถิ่นด้วยกันเองก็เป็นเรื่องดีแล้ว
ส่วนการขายตัวในอนาคต การพัฒนาศักยภาพการแปรรูปที่มีมาตรฐานเป็นการปูทางที่ชัดเจน
ในระยะเริ่มต้น ในอนาคตหวังว่า ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้เลี้ยงแพะชาววัง
จะเป็นที่รู้จักในท้องตลาด สร้างรายได้กลับมาในชุมชน
บุญยืน
มะโนรมย์ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงแพะชาววัง
กล่าวปิดท้ายการสนทนาว่า แม้ขณะนี้จะเป็นการเริ่มต้น
แต่มีทิศทางชัดเจนที่เห็นอนาคต ก้าวต่อไปและจุดหมายของกลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงแพะชาววัง
คือการขยายโมเดลนี้ไปยังพื้นที่ใกล้เคียง และเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายผู้เลี้ยงแพะ
แกะทั้งจังหวัดลำปางในอนาคต
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1107 วันที่ 2 - 8 ธันวาคม 2559)
กำลังคิดจะเลี้ยงขอเบอร์โทรหน่อยครับ
ตอบลบ