กลุ่มนายทุนไถดอยทั้งลูก ปลูกต้นปาล์มน้ำมัน รุกพื้นที่ป่าสงวน ไม่พอล้อมรั้วลวดหนามอีกชั้น เจ้าหน้าที่ใช้จีพีเอสตรวจสอบยึดคืนทันที หวั่นพื้นที่โดยรอบจะเอาแบบอย่าง ก่อนหน้านี้ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ได้บุกยึดรีสอร์ทที่แม่เมาะ สร้างรุกป่าสงวนอีกราย
เมื่อวันที่
6 ธ.ค.59 พ.ต.อ.สมพงษ์ สวนคร้ามดี รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง นำกำลังตำรวจ
กก.4บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ชป.สส.ปทส.ภ.จว.ลำปาง ศปทส.ภ.5 สายที่ 1
ลำปาง ตชด.33 เชียงใหม่ ตำรวจ สภ.ทุ่งฝาย
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่
1 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่
ลป.8 (แม่ทรายคำ) เจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ (ลำปาง) ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง เจ้าหน้าที่
สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดลำปาง (สปก.ลำปาง) กว่า 50 นาย เข้าตรวจสอบบริเวณแปลงปลูกต้นปาล์มน้ำมัน
ตั้งอยู่ป่าท้ายหมู่บ้าน เขตติดต่อระหว่างบ้านห้วยฮี หมู่ 7 และบ้านจำบอนเก่า หมู่
10 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังได้รับการร้องเรียนว่า
แปลงปลูกปาล์มน้ำมันแห่งนี้ ได้รุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
เบื้องต้น
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบในพื้นที่แห่งนี้มีการล้อมรั้วรวดหนามกินพื้นที่บริเวณกว้างขวาง
และทับหลักเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่ปักหลักไว้อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะเนินเขาและที่ลาดชันพบมีการนำรถมาไถเอาต้นไม้ออกเกือบทั้งหมด มีการปลูกต้นกล้าปาล์มน้ำมันความสูงประมาณ
1 เมตร แล้วหลายร้อยต้น โดยจากการเดินตรวจสอบพบว่า
พื้นที่รุกป่าแผ้วถางครั้งนี้ มีมากถึง 35 ไร่เศษ
สร้างความเสียหายแก่ผืนป่าบริเวณกว้าง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าแม่ทรายคำ โดยพบหญิงรายหนึ่ง ชาวบ้าน ต.ต้นธงชัย
อ.เมือง จ.ลำปาง แสดงตัวเป็นเจ้าของแปลงที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ข
แปลงเลขที่ 2 ระวาง สปก.ที่ 275 ซึ่งเป็นแปลงที่ดินใกล้เคียง
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ก่อนที่จะแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ส่ง ร.ต.อ.วรากร สิทธิ พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งฝาย ดำเนินการตามกฎหมาย
ส่วนการเข้าตรวจสอบและตรวจยึดพื้นที่แห่งนี้
ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีกลุ่มทุนที่ปลูกปาล์มน้ำมัน
ได้เข้ามาอาศัยชาวบ้านในพื้นที่บางกลุ่มที่มี พื้นที่ สปก.เพื่อเช่าปลูกปาล์มน้ำมัน
แต่ กลุ่มทุนเหล่านี้ กลับขยายอานาเขตแผ้วถางป่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยนำเครื่องจักรเข้ามาแผ้วถางป่าและล้อมรั้วรวดหนาวกั้นอานาเขตไม่ให้ใครรุกล้ำเข้าไป
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบและพบการกระทำผิดจริง
จึงเข้าตรวจยึดดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ทั้งนี้ ในพื้นที่รอบๆยังพบมีการแผ้วถางป่าออกไปอีกแต่ทางเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบพิกัดแผนที่ทางอากาศให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
ว่าพื้นที่เหล่านี้อยู่ในเขต สปก.หรือกันออกมาจากป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้เกษตรกรใช้ทำกิน
เพื่อไม่ให้กระทำการดำเนินชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่
และหากพื้นที่ไหนมีการรุกป่าอย่างชัดเจนแล้วก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันทีพร้อมทั้งมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันต่อไป
นอกจากนั้น
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ รีสอร์ท กลางอำเภอแม่เมาะ
หลังพบรุกพื้นที่ป่าสงวน สร้างเสร็จเรียบร้อยเตรียมเปิดให้บริการ โดยมีนายชูเกียรติ
พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง)นายศักรินทร์
ปัญญาใจ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและรักษาป่าภาคเหนือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้
เจ้าหน้าที่ทหารค่ายฝึกรบพิเศษที่ 3 ประตูผา
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. สายที่ 1ลำปาง ตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ กก.สส.ปทส.ภ.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ
เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง ร่วมประชุมและทำความเข้าใจการเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่มีการรุกป่า
ก่อสร้างที่พักอาศัยถาวร ก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ร่วมกัน
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังที่หมาย
บริเวณห้องพักไม่เลขที่ บ้านห้วยคิง หมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณดังกล่าวได้มีการปรับพื้นที่
และก่อสร้างห้องพักไปแล้ว 15 ห้อง และมีรั้วรอบขอบชิดทั้งหมด
ที่ประตูรั้วมีกุญแจปิดล๊อคไว้ แต่ขณะนั้นเอง มีชายคนหนึ่งเข้ามาบอกว่า
เป็นเจ้าห้องพักและที่ดินผืนนี้ ทราบชื่อภายหลัง คือ นายสมพงษ์ โพธิอยู่ อาย 52
ปี ชาวบ้าน ต.พิชัย อ.เมือง
จ.ลำปาง และได้เปิดกุญแจให้เจ้าหน้าที่เข้าไปข้างในเพื่อทำการตรวจสอบ และได้หอบเอกสารหลักฐานในการครอบครองที่ดินผืนนี้มาแสดง
ในเบื้องต้นพบว่า
หลักฐานการครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นเพียง ใบ ภบท.5 หรือใบเสร็จเสียภาษีบำรุงท้องที่
ซึ่งไม่ใช่หลักฐานการครอบครองที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทางด้านเจ้าของห้องพักแห่งนี้อ้างว่าตนเองไม่ทราบข้อกฎหมายเรื่องนี้เลย ก่อนหน้านี้ได้ซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่
โดยมีใบ ภบท.5 ซึ่งคิดว่าสามารถเข้าทำประโยชน์ได้ทันที
จึงลงทุนกับครอบครัวด้วยกัน 3 พ่อแม่ลูก
ซื้อที่ดินและสร้างห้องพักไป 15 ห้อง
และขณะนี้อยู่ระหว่างตกแต่งใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งหากรู้ว่าผิดกฎหมายคงไม่ทำ
อีกทั้งเงินที่ลงทุนไปถือว่าเป็นเงินก้อนที่สะสมกันมากับครอบครัว
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่า
ได้ตรวจวัดจับพิกัดแล้วพบว่าพื้นที่การครอบครองและก่อสร้างแห่งนี้
เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เมาะ ถูกยึดถือครอบครอง เนื้อที่ 2 ไร่ 2 งาน 53 ตารางวา ไม่สามารถที่จะเข้ามาก่อสร้างอาคารและเปิดห้องพักโรงแรมได้
จึงได้ควบคุมตัวมาบันทึกจับกุม พร้อมส่งเรื่องถึงพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ
ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เบื้องต้นยังตรวจสอบพบว่า
ยังมีอีกหลายจุดที่เข้าข่ายทำผิดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดินซึ่งจะเร่งตรวจสอบและดำเนินการทั้งหมดในเร็วๆนี้
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1108 วันที่ 9 - 15 ธันวาคม 2559)
ทำไมไม่ทำเป้นวาระแห่งชาติ จัดระเบียบทั่วประเทศเลย ให้ชัดเจนครับ
ตอบลบ