บุกจับไม้เถื่อน พบกำลังแปรรูป มอดไม้วิ่งป่าราบ

จำนวนผู้เข้าชม

ทหารพราน ตามแกะรอยกลุ่มมอดไม้ลักลอบตัดต้นสัก ในแปลงปลูกป่าของ อ.อ.ป. พบกำลังตั้งแท่นเลื่อยคาตา บุกจู่โจมมอดไม่วิ่งหนีไปได้หมด ทิ้งของกลางในที่เกิดเหตุครบเร่งสืบสวนหาตัวอย่างเร่งด่วนแล้ว

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 59 ที่บริเวณป่าละเมาะ ห่างจากถนนเรียบคันคลองชลประทาน ทางทิศตะวันออก เขตบ้านห้วยฮี หมู่ 7 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง จ.ส.อ.น้อม จันทร์แดง หน.ชุดเคลื่อนเร็วกรมทหารพรานที่ 31นำ พร้อมด้วย กำลังตำรวจ ศปทส.ภ.5 สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ กก.4บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ชป.สส.ปทส.ภ.จว.ลำปาง สายตรวจปราบปรามว่าด้วยการกระทำผิดป่าไม้ สายที่ 1 สนธิกำลัง เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.8 (แม่ทรายคำ)  เจ้าหน้าที่ สวนป่าแม่ทรายคำ ออป. จ.ลำปาง เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมป่าไม้ (ลำปาง)  ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะดังกล่าว หลังจากได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบกลุ่มมอดไม้เข้ามาลักลอบตัดไม้หวงห้าม และตั้งโรงงานแปรรูปโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเดินเท้าเข้าไปในพื้นที่ กระทั่งพบกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน กำลังทำการแปรรูปไม้อยู่ต่อหน้าต่อตา จึงได้วิ่งบุกเข้าไปหมายจะจับกุมตัวให้ได้ แต่ทางชายทั้ง 4 เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ต่างตกใจ พากันทิ้งอุปกรณ์ และวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตฝ่าแปลงปลูกมันสำปะหลังหายเข้าไปในป่าได้ทั้งหมด  จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบในบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบกองไม้สักท่อน ไม้สักที่แปรรูปแล้วจำนวนหนึ่ง พร้อมแท่นเลื่อย และอุปกรณ์ในการแปรรูปไม้ครอบครัน พบหมวก 2 ใบ รองเท้าแตะ 2 คู่  แท่นเลื่อย 1 แท่น เลื่อยวงเดือน 2 ปื้น เครื่องยนต์ในการแปรรูปไม้ 1 เครื่อง  รถยนต์กระบะไม่มีหลักฐานเอกสารใดๆ 1 คัน ไว้ในที่เกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ประสาน ร.ต.อ.มนัส ใจวัน รอง สว.(สอบสวน)  สภ.ทุ่งฝายเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนของกลางทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึด ไปเก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.8 (แม่ทรายคำ) เพื่อเร่งสืบหาตัวกลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้แล้ว

จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทราบว่า กลุ่มมอดกลุ่มนี้ แต่เดิมเคยลักลอบตัดไม้สักในพื้นที่แปลงปลูกป่าขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ในหลายพื้นที่ ก่อนที่จะหันเหไปลักลอบตัดไม้ชิงชัน ไม้เกล็ดแดง ในพื้นที่ป่าลึก ซึ่งมีราคาที่สูง แต่ระยะหลังถูกปราบปรามอย่างหนัก จนไม่สามารถ ค้าขายไม้ชิงชันในตลาดมืดได้ ก็กลับมาลักลอบตัดไม้สักในแปลงปลูกสวนสักของ อ.อ.ป.อีกครั้ง จนกระทั่งทางเจ้าหน้าที่ ทหารพรานได้ตามแกะรอย และมาพบว่ากำลังทำการแปรรูปไม้สักพอดี และเมื่อกลุ่มมอดไม้เห็นเจ้าหน้าที่ ต่างวิ่งหนีไม่คิดชีวิตหายไปในแปลงปลูกมันสำปะหลัง ก่อนจะวิ่งหายไปในป่าแม้เจ้าหน้าที่จะกระจายกำลังออกตามตัวแต่ไม่พบ ซึ่งทางส่วนที่เกี่ยวจะมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1108 วันที่  9 - 15  ธันวาคม 2559)