เณรขนหัวลุก ถ่ายรูปประตูเมรุ ติดหน้าคนแก่

จำนวนผู้เข้าชม

ขนหัวลุก เณรถ่ายภาพติดหน้าคนแก่ชัดเจนที่ประตูเตาเผาศพ หลังเจ้าของร้านรับซื้อของเก่านำมาคืนวัด นอนผวานานนับปี ทั้งเสียงคนคุยกัน ทั้งเสียงแตรรถดังแบบมีสาเหตุ  เจ้าอาวาสเผยเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็ทำให้รู้โลกหลังความตายมีจริง

           

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.60  พระครูวิจิตร พัฒนวิมล เจ้าอาวาสวัดน้ำผึ้งชาวไร่อ้อย ตั้งอยู่เลขที่ 265 บ้านผึ้ง หมู่ 3 ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบประตูเตาเผาศพเก่า ซึ่งถูกวางไว้หน้าศาลพระภูมิภายในป่าช้าของวัด พร้อมกับตะแกรงเหล็ก หลังจากร้านขายของเก่าแห่งหนึ่งได้นำมาส่งคืนทางวัดเมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา  โดยอ้างว่าพบอาถรรพ์จากประตูดังกล่าว เป็นเสียงคนพูดคุยกัน เสียงแตรรถ ต่างๆนานา ทำให้กินนอนไม่เป็นสุขมานานนับ 1 ปี

           

เมื่อตรวจสอบประตูดังกล่าว พบว่าเป็นประตูเหล็กขนาดใหญ่สูงประมาณ 1 เมตร และยังพบตะแกรงที่ใช้วางศพเวลาเผาอีก 3 อัน  อันวางอยู่ใกล้กัน ลักษณะมีสนิมขึ้นเกาะเต็มไปหมด โดยมีชาวบ้านนำดอกไม้ธูปเทียน อาหาร ขนม ผลไม้ และน้ำแดง มาวางไว้จำนวนหนึ่ง

           

พระครูวิจิตร พัฒนวิมล เจ้าอาวาสวัดน้ำผึ้งชาวไร่อ้อย  เล่าว่า  เมรุหลังเก่านี้ได้มีอายุยาวนานมาก คาดว่าถึง 100 ปี  กระทั่งได้เกิดชำรุด อิจแตกหัก ไม่สามารถทำการเผาศพได้อีก จึงได้ปรึกษาทางเทศบาลตำบลเกาะคา เพื่อของบประมาณมาก่อสร้างเมรุหลังใหม่ ในปี 2555 จึงต้องทุบเมรุเก่าทิ้ง และได้มีการแยกชิ้นส่วนกองกันไว้ หลังจากนั้นได้มีคนผ่านมาพบนำเศษเหล็กรวมทั้งประตูเตาเผาศพไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า กระทั่งช่วงปลายเดือน ม.ค.60 ที่ผ่านมา เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าได้มาหาอาตมาที่วัด บอกว่าพบเจอเรื่องประหลาดมานานนับปี แต่ตอนแรกไม่เชื่อเนื่องจากนับถือศาสนาคริสต์  พอนานไปเจอเรื่องราวลี้ลับหนักขึ้น จึงขอเอาประตูเตาเผาศพมาคืนที่วัดเพราะทดไม่ไหวต้องอดหลับอดนอน บ้างก็ได้ยินเสียงคนจำนวนมากพูดคุยกันตอนกลางดึก เสียงแตรรถที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมาเอง  อาตมาจึงแนะนำว่าต้องทำพิธีถอนและนำกลับมาไว้ที่เดิม จึงเดินทางไปที่ร้านรับซื้อของเก่าเพื่อทำพิธีให้ และยกมาวางไว้ที่ป่าช้าของวัด

           

เจ้าอาวาส กล่าวอีกว่า เมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมา  เณรที่วัดได้พากันเดินมาดูประตูเตาเผาศพที่วางทิ้งไว้ เพราะมีคนนำเรื่องราวไปขึ้นทางโซเชียลมีเดียร์ และได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ หลังจากเปิดดูก็ได้รีบวิ่งมาเรียกอาตมาบอกว่าถ่ายติดคนแก่ พร้อมกับเอาภาพในโทรศัพท์ให้ดู ก็พบว่าช่องด้านล่างของประตู ถ่ายติดภาพหน้าคนชัดเจน มีตา มีจมูก  เณรก็เกิดป่วยไป 2 วันด้วยกัน เลยคว่ำประตูไว้   เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ตามความเชื่อล้านนาว่าสิ่งเหล่านี้ยังคงมีอยู่ ยังสิงสถิตอยู่ตรงนั้น เราก็ต้องแก้ไขตามประเพณีของเราคือ ทำพิธีกรรมสวดถอนต่างๆ  เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ก็ทำให้หลายคนเชื่อว่าโลกวิญญาณ โลกหลังความตายมีจริง 

           

พระครูวิจิตร กล่าวอีกว่า ตอนนี้จะนำประตูเตาเผาศพวางไว้ในบริเวณนี้ก่อน ไม่ได้คิดจะเอาไปหลอมหรือทำลายทิ้ง  และจะหาสถานที่นำไปเก็บไว้ให้ดีกว่านี้ต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์  ฉบับที่ 1117 วันที่  17 - 23 กุมภาพันธ์ 2560 )