สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เชิญชวนโรงเรียนทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการกระจายโอกาสการเรียนรู้ดาราศาสตร์ “77 จังหวัด เปิดฟ้าส่องโลกดาราศาสตร์ เปิดโอกาสเรียนรู้ทั่วหล้า” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 “60 พรรษา เจ้าฟ้านักดาราศาสตร์” เพื่อรับมอบกล้องโทรทรรศน์ชนิดสะท้อนแสง Dobsonian ขนาด 10 นิ้ว พร้อมสื่อและอุปกรณ์ทางดาราศาสตร์ชุดใหญ่ เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมทางดาราศาสตร์ในโรงเรียนและชุมชนการสังเกตการณ์วัตถุบนท้องฟ้า สังเกตปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจ ตลอดจนเป็นการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้ให้เป็นไปตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้
นานมาแล้ว
มนุษย์เฝ้ามองท้องฟ้าและพยายามอธิบายความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนนั้น
จนกระทั่งเรารู้แล้วว่า โลกเป็นส่วนหนึ่งของเอกภพกว้างใหญ่
ซึ่งเต็มไปด้วยวัตถุต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาวเคราะห์เพื่อนบ้านในระบบสุริยะ
ดาวฤกษ์นับพันล้านดวงในดาราจักรทางช้างเผือก กระจุกของดาวฤกษ์
เมฆหมอกของแก๊สที่กำลังก่อตัวเป็นระบบดาวแห่งใหม่ และดาราจักรอื่น ๆ ที่อยู่ไกลแสน
สำหรับนักดูดาวหน้าใหม่
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถศึกษาดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการเตรียมอุปกรณ์สำหรับดูดาว
เช่น แผนที่ฟ้า ที่จะบอกให้รู้ถึงตำแหน่งกลุ่มดาวแต่ละกลุ่มในท้องฟ้า สมุดบันทึก
ดินสอ หรือปากกาสำหรับจดบันทึก และไฟฉายที่ให้แสงสีแดงสำหรับส่องดูแผนที่ฟ้า
หรือสมุดบันทึกในระหว่างการดูดาว เพราะแสงสีแดงแทบจะไม่มีผลต่อการมองเห็นในที่มืด
ต่อมาคือเลือกสถานที่ที่เหมาะสม เป็นที่โล่งแจ้งไม่มีแสงไฟรบกวนโดยตรง สะดวก
และปลอดภัย
เมื่อทำความรู้จักท้องฟ้า
กลุ่มดาว และวัตถุต่าง ๆ ในระดับหนึ่ง นักดูดาวหน้าใหม่ย่อมมองหาทัศนูปกรณ์ที่เหมาะจะใช้ดูดาวในระยะเริ่มต้นกล้องสองตาตอบโจทย์ในข้อนี้ได้
ทว่าผ่านไประยะหนึ่งเมื่อเขาเหล่านั้นหันไปสนใจสังเกตวัตถุที่เล็กและจางกว่าขีดจำกัดของกล้องสองตา
กล้องโทรทรรศน์จึงเหมาะสำหรับนักดูดาวสมัครเล่นที่มีประสบการณ์ในการดูดาวมาพอสมควรแล้ว
กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงที่โรงเรียนจะได้รับแจกนี้ ออกแบบโดยใช้กระจกเว้าทำหน้าที่รวมแสงเพื่อสร้างภาพหลัก
และมีกระจกขนาดเล็กอีกชิ้นทำหน้าที่สะท้อนแสงที่รวมมาจากกระจกปฐมภูมิให้เข้าสู่เลนส์ใกล้ตา
กระจกที่นำมาใช้ในกล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงนั้น
ต่างจากกระจกเงาที่ใช้ในชีวิตประจำวันตรงที่ผิวสะท้อนแสงจะถูกฉาบอยู่ด้านหน้า
และไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อแก้วที่มีคุณภาพสูงนัก
เนื่องจากการทำงานของกล้องโทรทรรศน์ชนิดนี้ จะใช้เพียงผิวของกระจกเท่านั้น
ซึ่งแสงจากวัตถุไม่ได้ผ่านเข้ามาในเนื้อแก้วเลย
จึงทำให้กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่ากล้องโทรทรรศน์หักเหแสงมากเมื่อเทียบขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเลนส์และกระจกที่มีขนาดเท่ากัน
ความได้เปรียบอีกอย่าง คือ
กล้องโทรทรรศน์สะท้อนแสงจะไม่เกิดความคลาดสีเหมือนอย่างกล้องโทรทรรศน์หักเหแสง
กล้องโทรทรรศน์ชนิดนี้สามารถสร้างกระจกสะท้อนแสงที่มีขนาดใหญ่ได้ง่าย จึงเหมาะกับการส่องดูวัตถุท้องฟ้าที่ไม่สว่างนัก
แต่ต้องการการดูแลรักษามากกว่ากล้องโทรทรรศน์หักเหแสง เช่น
อาจมีการเคลื่อนของกระจกที่ทำให้ทางเดินแสงในกล้องคลาดเคลื่อนไป
หรือการลอกของสารเคลือบกระจก
ทุกโรงเรียนทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดลำปางสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้
แอบหวังไว้ว่า ลูกหลานของเราจะได้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอันไพศาล
เพื่อวันหนึ่งวันใดพวกเขาจะตระหนักได้ว่าตัวเรานั้นเท่าฝุ่นผง ไม่ใช่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับจอโทรศัพท์มือถือ
หรือเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ดที่อหังการ์ว่าข้าเจ๋งกว่าใคร
สนใจเข้าร่วมโครงการ
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.narit.or.th/sirindhorntelescopeหรือสอบถามได้ที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ เลขที่ 191 อาคารศิริพานิช
ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่ 50200 โทรศัพท์
0-5322-5569 ต่อ 305 หรือติดต่อคุณคมสันต์
โทรศัพท์ 08-8252-4424
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1121 วันที่ 17-23 มีนาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น