วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560

ผอ.บุญวาทย์ฯ ถูกร้องเรียนอีก ประมูลที่แพง

จำนวนผู้เข้าชม good hits

หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ได้รับการร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม  ขอความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการขายอาหารในโรงอาหาร  โดยผู้ร้องได้ระบุในหนังสือว่า ได้รับความเดือดร้อน จากนโยบายของผู้บริหารโรงเรียน ที่เรียกร้องให้ผู้ประกอบการ วางเงินประมูลที่กำหนดให้แต่ละร้านต้องจ่ายล่วงหน้าเป็นเงินก้อน ประมาณ 40,000-60,000 บาท  ขึ้นอยู่กับชนิดของร้านอาหาร เพื่อรับสิทธิ์การได้ขายอาหารในโรงอาหารต่อไปในปีการศึกษา 2560

ในหนังสือร้องเรียน ระบุอีกว่า  เงินก้อนดังกล่าวถือว่าเป็นวงเงินที่สูงมาก เกินกำลังที่พ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการที่ทำมาหากิน-หาเช้ากินค่ำ จะสามารถหามาจ่ายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งเมื่อได้คิดคำนวณดูจากผลประกอบการที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกว่าการเรียกเก็บเงินก้อนดังกล่าวเป็นจำนวนเงินที่สูงขนาดนี้ ถือได้ว่าเป็นการรีดเลือดจากปู   ขูดรีดจากกลุ่มคนที่ไม่มีอำนาจต่อรองเลยก็ว่าได้  จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อท่าน ผอ.สกล  ทะแกล้วพันธุ์  ได้โปรดกรุณาพิจารณาทบทวนการเรียกเก็บเงินก้อนดังกล่าวใหม่อีกครั้งหนึ่ง  เพราะทุกวันนี้ โรงเรียนก็เรียกเก็บเงินรายวันโดยการหักเปอร์เซ็นต์  ร้อยละ 12 ของยอดขายทั้งหมดในแต่ละวัน  ซึ่งก็เป็นจำนวนเงินที่มากอยู่แล้ว   แต่กลับยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมว่าเงินจำนวนดังกล่าวที่เก็บไปนั้น ได้ถูกนำกลับมาพัฒนาภาพลักษณ์หรือสุขอนามัยของโรงอาหาร

ลานนาโพสต์จึงได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยัง นายสกล ทะแกล้วพันธุ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย  เปิดเผยว่า  ที่ผ่านมาทางโรงเรียนก็ได้มีการเก็บเงินในลักษณะการวางเงินประมูลอยู่แล้ว ซึ่งราคาร้านค้าแต่ละประเภทจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับยอดขายในแต่ละปีด้วย  โดยมีผู้ประกอบการที่ค้าขายอยู่เดิมประมาณ 30 ราย  ช่วงต้นเดือนมีนาคมได้มีการประชุมร่วมกันและชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ถึงรูปแบบการจ่ายเงินค่าเช่า  ซึ่งรายเดิมได้อนุโลมให้ว่าไม่ต้องมีการประมูลใหม่ เนื่องจากเกรงว่าจะสู้ราคาผู้ประมูลรายใหม่ไม่ได้  จึงพิจารณาค่าเช่าตามยอดขายของปี 59   บางรายก็ได้ราคาเดิมหรืออาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย   แต่บางร้านที่ยอดขายเพิ่มขึ้นราคาก็สูงขึ้น   ซึ่งในที่ประชุมได้เห็นชอบร่วมกัน ไม่ได้มีการคัดค้านใดๆ   ทางโรงเรียนจึงได้เปิดประมูลให้ผู้ค้ารายใหม่เข้ามาเพียง 4 รายเท่านั้น  ซึ่งมีคนเสนอให้สูงสุดถึง 1.7 แสนบาท   กรณีของรายที่เพิ่มค่าที่เป็น 55,000 บาท เพราะพิจารณาตามยอดขายแล้วว่า ในช่วง 8 เดือนที่เปิดเทอม ผู้ประกอบการมียอดขายมากขึ้น รวมประมาณ 7 แสนกว่าบาท  ซึ่งถือว่าเหมาะสมแล้ว  โดยเมื่อวันที่ 27 มี.ค.60 ที่ผ่านมาก็ได้มีการประชุมทำสัญญากันเรียบร้อย  รายที่พร้อมก็ได้นำเงินสดมาจ่ายครบตามจำนวน  มีเพียง 7 ราย ที่ทำเรื่องขอผ่อนผันเข้ามาชำระเป็นงวด ทางโรงเรียนก็ยินยอมและตกลงทำสัญญากันไว้แล้ว 6 ราย เหลืออีก 1 ราย ที่ยังไม่ได้มาทำสัญญา 

นายสกล กล่าวต่อไปว่า  ดูจากหนังสือร้องเรียนแล้วมีการออกหนังสือเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 60 ก่อนหน้าวันที่นัดทำสัญญาเพียงวันเดียว  ในวันทำสัญญาก็ไม่เห็นมีผู้ประกอบการรายใดมาคัดค้าน  นอกจากนี้ยังได้มีคนสร้างเฟสบุ๊กขึ้นมาใหม่ใช้ชื่อว่า โรงอาหาร บว. ได้ส่งข้อความเข้าในเฟสบุ๊กส่วนตัวของตนเอง แจ้งถึงเรื่องนี้ ซึ่งได้ตอบไปว่า ให้มานั่งพูดคุยกัน แต่เขาก็ไม่มาและเงียบไปไม่ตอบกลับมาอีก  เมื่อเข้าไปดูในหน้าเฟสบุ๊กของบุคคลนี้ ก็ไม่มีรูปไม่มีประวัติใดๆ มีเพียงตนเองเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวเท่านั้น  ซึ่งก็พอจะทราบตัวว่าเป็นใคร มีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้นเดือดร้อนเรื่องนี้

ผู้อำนวยโรงเรียน กล่าวอีกว่า ตนเองได้มีการทำหลักฐานเหล่านี้ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน  เนื่องจากคาดว่าเป็นเรื่องต่อเนื่องกับกรณีการออกใบปลิวโจมตี ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย  จึงยื่นไปเป็นหลักฐานประกอบด้วยส่วนหนึ่ง  สำหรับเรื่องคดีเดิมนั้นมีความคืบหน้าไปมาก  เพราะมีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไม่พอใจกับการทำงานของตน  ซึ่งเดาได้ไม่ยาก แต่เราก็ไม่ก้าวก่ายให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
           
 (หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1124 วันที่ 7 - 20 เมษายน 2560)           


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์