หลังจากที่
นายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอดีต
ส.ส.ลำปางหลายสมัย ได้ออกมาแสดงเจตนารมณ์
คัดค้านการก่อสร้างทางยกระดับของกรมทางหลวง บริเวณสี่แยกภาคเหนือ หรือ
สี่แยกหลักกิโลเมตรยักษ์ โดยให้เหตุผลว่า การสร้างทางยกระดับในจุดดังกล่าว
ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมืองลำปาง และประตูสู่ล้านนา จะทำให้ภูมิทัศน์ที่จะเข้าเมืองลำปางเสียหาย และอีกประการคือ จ.ลำปางไม่ได้มีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดมากนัก
ซึ่งการติดไฟแดงเป็นเรื่องปกติ และจะมีรถติดมากเพียงช่วงเทศกาลเท่านั้น ยังคงมีเส้นทางถนนพหลโยธินอีกเส้นทางหนึ่งได้
เมื่อนายพินิจได้ออกมาคัดค้านการก่อสร้างทางยกระดับ
พบว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างหนัก ว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ได้มีชาวลำปางเข้ามาแสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟสบุ๊กของลานนาโพสต์จำนวนมาก
ซึ่งส่วนใหญ่อยากให้มีการสร้างทางยกระดับ ถ้าจำเป็นควรทุบหลักกิโลเมตรยักษ์ออกไป
เพื่อความเจริญของเมืองลำปาง ความคิดของท่านเป็นความคิดเก่าๆ
พร้อมกับมีคำถามว่าท่านไม่อยากให้บ้านเมืองลำปางพัฒนาหรือ
ขณะเดียวกันก็มีคนเห็นด้วยให้ทำทางลอด แต่ยังเป็นห่วงปัญหาเรื่องน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว
เพราะเคยเกิดน้ำท่วมหนักมาแล้วครั้งหนึ่ง
ถึงแม้จะโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
นายพินิจ จันทรสุรินทร์ ก็ยังเดินหน้าต่อไป
โดยการเข้ายืนหนังสือต่ออธิบดีกรมทางหลวง เมื่อวันที่ 18
มิ.ย.60 ที่ผ่านมา โดยกรมทางหลวงได้ลงรับหนังสือเลขที่ ช
6568 เรียบร้อยแล้ว
โดยข้อความในหนังสือระบุว่า
โครงการก่อสร้างสะพานยกระดับข้ามทางแยก เพื่อตรงไปยังถนนสายลำปาง-เด่นชัย เข้าสู่
จ.แพร่ นั้น ไม่เหมาะสมหลายประการ คือ ทำให้เสียภูมิทัศน์ ถนนเข้าเมือง ควรสงวนพื้นที่โดยรอบ สี่เชียง
ไว้ปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เพื่อรับนักท่องเที่ยว
ซึ่ง จ.ลำปาง เป็นศูนย์กลางพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ
ควรมีสร้างสัญลักษณ์ของล้านนา อยู่ระหว่างการหารือทุกภาคส่วน และขอเสนอให้เปลี่ยนเป็นอุโมงค์ลอด
ตั้งแต่ร้านไทวัสดุลอดทางแยกไปตามระยะทางตามความเหมาะสมที่วิศวกรจะออกแบบ สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างสะพานที่ตั้งไว้ประมาณ
570 ล้านบาท
เสนอให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เป็นค่าสำรวจแบบอุโมงค์ 100 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณในปีต่อไป ส่วนงบประมาณที่เหลือ 470 ล้านบาท เสนอเป็นโอนค่าก่อสร้างทางหลวงสายลำปาง-เด่นชัย
ที่กรมทางหลวงจะก่อสร้างสะพาน เพื่อให้การคมนาคมสะดวก นอกจากนั้น ถ.สายลำปาง-เด่นชัย
ถนนของกรมทางหลวงที่ได้รับเป็นโครงการช่วยเหลือจากประเทศออสเตรเลียปี พ.ศ.2518 กรมทางหลวงได้มอบให้ศูนย์สร้างทางเป็นผู้ดำเนินการจนถึงบัดนี้
การก่อสร้างทางคู่ขนาดชนิด 4
ช่องจราจรก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ประการใด จนล่วงเลยมา 43
ปีแล้ว จึงเห็นควรให้ปรับโอนงบประมาณก่อสร้างสะพานมาก่อสร้างถนนให้แล้วเสร็จ โดยในเรื่องดังกล่าวนี้
ได้มีการหารือกับองค์กรต่างๆใน จ.ลำปาง ไปบางส่วนแล้ว และจะมีการหารือกับภาคเอกชน
ภาคการศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป
อย่างไรก็ตาม
เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของอธิบดีกรมทางหลวง จะรายงานให้ทราบต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1135 วันที่ 30 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2560)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น