สองหนุ่มขนไม้สักท่อนเต็มกระบะ เจอหน้าหน้าที่
อุทยานแห่งชาติออกตรวจพื้นที่ สังเกตเห็นกระบะท้ายคลุมผ้าใบผิดปกติ ประสาน
กำลังป่าไม้ และตำรวจป่าไม้เข้าสกัด กลางถนนได้ผู้ต้องหาสองคน
พร้อมของกลางเต็มหลังรถเป็นไม้สักท่อนทั้งหมดส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 23 ธ.ค.60 ที่เส้นทางระหว่างวัดถ้ำพระสบายไปบ้านกิ่ว เขตบ้านหนองถ้อยหมู่ 7 ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง กำลังเจ้าหน้าที่ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.20 (แม่จางใต้ฝั่งซ้าย) เจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ กกก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่ โดยการอำนวยการสั่งการของ นายพูนสถิต วงษ์สวัสดิ์ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ได้เข้าสกัดรถยนต์กระบะ ต้องสงสัยที่ ท้ายกระบะ นิสสันสีน้ำเงิน ไมติดแผ่นป้ายทะเบียน และมีผ้าใบสีดำคลุมปิดมิดชิด ซึ่งเป็นที่น่าสงสัย ว่าอาจมีสิ่งของผิดกฏหมายซุกซ่อนอยู่ และหน้ารถมีชายวัยรุ่นสองคนเป็นคนขับ 1 คนและคนนั่งข้างคนขับ 1 คน อยู่หน้ารถ ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าได้ให้สัญญาณ รถต้องสงสัยจอดรถข้างทางแล้วเชิญทั้งสองคนลงจากรถ และให้เปิดผ้าใบคลุมท้ายกระบะออก เมื่อเปิดดูพบว่าเป็นไม้สักท่อนที่ถูกตัดเป็นท่อนแล้วกว่า 50ท่อนเรียงซ้อนกันอัดแน่นอยู่ท้ายกระบะ
และจากการสอบถามเบื้องต้นชายทั้งสองอ้างว่าได้รับจ้างขนไม้สักเท่านั้นโยได้ไปตัดที่บริเวณ
หัวไร่ปลายนา ที่มีโฉนดของชายคนหนึ่งในพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว
และกำลังจะขนย้ายไม้ดังกล่าวไปเก็บไว้ที่บ้านชายดังกล่าวที่อยู่ในหมู่บ้าน
โดยไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าตัดหรือเคลื่อนย้ายไม้สัก
เพราะคิดว่าระหว่างหมู่บ้านคงไม่เป็นไร แต่ก็มาถูกจับกุมก่อน
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าการตัดและเคลื่อนย้ายไม้สักต้องขออนุญาตไม่ว่าจะที่มีโฉนดหรือหรือมี
หนังสือเอกสารของทางราชการ
โดยหากไม่แจ้งแล้วตัดหรือเคลื่อนย้ายไม้สักมีความผิดทั้งหมด
จึงได้ความคุมตัวชายวัยรุ่ยทั้งสองคนคือ นายวรุฒวงค์วานห้อย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 หมู่ 9 บ้านฮ่อม
ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ขับรถยนต์บรรทุกไม้ นายบุญยรักษ์ เครือวงค์คำ อายุ 33
ปี อยู่บ้านเลขที่ 183 หมู่ 9 บ้านฮ่อม ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
และรถยนต์กระบะของกลางและไม้สักทั้งหมดไป ตรวจนับที่
สถานีตำรวจภูธรแม่ทะและตรวจวัดของกลางเพื่อส่งพนักงานสอบสวน
สภ.แม่ทะดำเนินการตามกกหมาย พ.ร.บ.ป่าไม้ต่อไป โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิด
พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 59 ฐาน “ร่วมกันมีไม้สักอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
สำหรับการตรวจยึดและจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่
อุทยานแห่งชาติฯจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง ออกตรวจสอบในพื้นที่และสังเกตเห็นความผิดปกติ
จึงได้ประสานกำลังป่าไม้และตำรวจเข้าสกัดรถต้องสงสัยดังกล่าวและตรวจสอบพบการกระทำผิดจริงจึงตรวจยึดและส่งตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1161 วันที่ 29 ธันวาคม 2560 - 11 มกราคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น