วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2561

‘กรีนเมาน์เทน’น้ำแร่ลำปาง จากแหล่งน้ำแร่สามพันปี

จำนวนผู้เข้าชม .

ท่ามกลางการแข่งขันตลาดน้ำแร่ในประเทศไทย ซึ่งหลายแบรนด์ดังกำลังช่วงชิงตลาดตามเทรนด์รักสุขภาพ น้ำแร่ "กรีนเมาน์เทน" จากโรงงานเล็กๆ ภายใต้ โรงงานน้ำแร่ เดอชาเลต์ บ่มเพาะตัวเองมากว่า 7 ปี เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงการน้ำดื่ม

วีฤทัย สุวรรณเสรี และ อนุพงษ์  ไทยผดุงพานิช ผู้บริหารโรงงานน้ำแร่ เดอชาเลต์ เล่าถึงที่มาของธุรกิจว่า เดิมครอบครัวทำธุรกิจด้านก่อสร้างในกรุงเทพฯ  มีคนรู้จักชักชวนมาทำธุรกิจน้ำแร่ จึงร่วมกับนักธรณีวิทยาศึกษาและสำรวจแหล่งน้ำคุณภาพดีที่มีคุณสมบัติเป็นน้ำแร่สำหรับดื่ม ซึ่งพบแหล่งน้ำแร่ใต้ดินที่ไม่ห่างจากกับอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนมากนัก จึงได้นำตัวอย่างน้ำจากการสำรวจไปตรวจสอบคุณสมบัติตามมาตรฐานน้ำเพื่อบริโภค  ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ 10 เชียงใหม่ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กรุงเทพฯ และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พบว่ามีแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทางครอบครัวจึงตัดสินใจซื้อที่ดินดังกล่าวราว 10 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตน้ำแร่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ดำเนินการการขอใบอนุญาตตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์น้ำดื่มที่ถูกต้อง ปัจจุบันมีกำลังผลิต วันละ 20,500 ขวด นับเป็นก้าวแรกของการทำธุรกิจน้ำดื่มเต็มตัว

“ที่แจ้ซ้อนเป็นภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งน้ำตกและน้ำพุร้อน น้ำแร่ที่เรานำขึ้นมาผลิตได้จากสายน้ำแร่ใต้ดินลึก 150 เมตรซึ่งเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์มีอายุยาวนานกว่า 3,000 ปี  มีคุณสมบัติดื่มได้ให้คุณประโยชน์ ซึ่งแตกต่างแร่ที่ได้จากน้ำพุร้อน”

เป้าหมายทางการตลาดของน้ำแร่กรีนเมาน์เทน คือแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ มีโอกาสดื่มน้ำแร่ในราคาใกล้เคียงกับน้ำดื่มทั่วไปในท้องตลาด โดยวางฐานตลาดตามร้านค้าพาณิชย์ ในท้องถิ่นและกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ท แหล่งท่องเที่ยว  และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่ใช้น้ำดื่มในงานประชุมสัมมนา นอกจานี้เราก็นำน้ำดื่มเราไปแจกหรือมีส่วนร่วมงานกิจกรรมของชุมชน ให้คนได้รับรู้และบอกต่อว่า "น้ำแร่จากอำเภอแจ้ซ้อนลำปาง"

วีฤทัย สุวรรณเสรี ผู้บริหารควบตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด บอกว่า แม้จะน้อยประสบการณ์แต่ก็มากด้วยความตั้งใจ ที่จะนำน้ำแร่กรีนเมาน์เทน ฟันฝ่าถนนสายการตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งไม่ง่ายสำหรับแบรนด์น้องใหม่

“ในเส้นทางตลาดเราพบอุปสรรคและการแข่งขันหลายรูปแบบ หลายคนถามว่าเราเคยไปช่องทางตลาดใหญ่ในกลุ่มโมเดิร์นเทรด และห้างสรรพสินค้าไหม ตอบว่าไปมาทุกที่ แต่เราตัวเล็กมากต้องพับข้อเสนอกลับบ้านทุกครั้ง เคยผู้แทนจากกลุ่มทุนใหญ่มาติดต่อเจรจาซื้อขายออเดอร์วันละ 300,000 ขวด นั่นหมายถึงเราต้องลงทุนเครื่องจักรเพิ่มและตกเป็นทาสของระบบทุน เราจึงเลือกที่จะปฏิเสธเงื่อนไข แต่ปล่อยให้กลไกตลาดเป็นตามธรรมชาติและศักยภาพการผลิต ขณะเดียวกันก็ขยายฐานตลาด และมองลู่ทาง ไปยังตลาดเพื่อนบ้านที่ติดแนวเขตภาคเหนือ ที่กำลังจะเชื่อมโยงเส้นทางเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคต”

นั่นคือแนวทางของการเดินทางอย่างช้าๆแต่ก็ยังมองไกลไว้เผื่อวันที่เดินไปถึง แต่ความอยู่รอดภายใต้การตลาดธรรมชาติ ยังต้องเดินหน้าต่อให้ถึงจุดคุ้มทุน และเปิดช่องทางตลาดสำรอง ด้วยการรับจ้างผลิตน้ำแร่ให้กับหน่วยงาน องค์กร หรือ ธุรกิจในกลุ่มโรงแรม ที่พัก หรือแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการมีน้ำดื่มที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง ไว้บริการลูกค้า โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะมียอดสั่งผลิตขั้นต่ำ 5,000 ขวด ซึ่งสามารถทยอยผลิตได้

“งานรับจ้างผลิต เหมือนเป็นดาบสองคมในทางธุรกิจ นั่นคือการแข่งขันกันเอง หรืออาจส่งผลต่อตัวตนของกรีนเมาน์เทน ซึ่งเรื่องนี้เรามีหลักคือ การรับจ้างผลิตจะมีราคาสูงกว่า กรีนเมาน์เทน ดังนั้นไม่ว่าผู้จ้างผลิตจะมียอดผลิตสูงกว่าเรากี่เท่าตัว ก็ไม่กระเทือนต่อระบบธุรกิจโดยรวม”

ปัจจุบัน น้ำแร่กรีนเมน์เทน ได้รับรองมาตรฐานองค์การอาหารและยา (อย.) และ GMP และอยู่ระหว่างพัฒนาสู่มาตรฐานอื่นๆ เช่น HACCP และ ISO9000 ขณะนี้มีฐานรับลูกค้าขายส่งตรงจากโรงงาน ตั้งอยู่ ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และ วางจำหน่ายปลีกไปรษณีย์ทุกสาขาในจังหวัดลำปาง และเริ่มมีร้านค้าทั่วไปในภาคเหนือ และมีศูนย์กระจายสินค้าจำหน่ายที่กรุงเทพฯ และอยู่ระหว่างจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในตัวเมืองลำปางและขยายไปจังหวัดใกล้เคียงเร็วๆนี้

ผู้บริหาร เดอชาเลต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกก้าวย่างอาศัยคำว่า "จริงใจ"นำทาง ทว่าหนทางของการเติบโตยังอีกยาวไกล แม้การเริ่มต้นดูเหมือนกรีนเมาน์เทนจะเป็นลูกเป็ดน้อย แต่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจที่อาศัยแผ่นดินและทรัพยากรธรรมชาติ เล่าขานเส้นทางสายน้ำแร่แหล่งแจ้ซ้อนลำปางให้ลือไกล 

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1173 วันที่ 30 มีนาคม - 5 เมษายน 2561)
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์