
รับฟังความเห็นถนนดวงรัตน์กร่อย
คนเข้าฟังแค่หยิบมือ
ชาวโซเชียลลำปางติงควรจัดประชุมวันหยุดให้ประชาชนมีโอกาสเข้าร่วม ตั้งข้อสังเกตงบ 16
ล้านสูงเกินไป ลั่นคนอภิปราย 11 คนไม่สามารถตัดสินได้ว่าเห็นด้วย
เมื่อวันที่
27 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมอุทยานการเรียนรู้เทศบาลนครลำปาง
LK Park เทศบาลนครลำปาง
เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อ “โครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนดวงรัตน์”
ของเทศบาลนครลำปาง โดยมี นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง
นายอรรณพ สิทธิวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักการช่าง นายมนัสพี เดชะ นายช่างเขียนแบบอาวุโส
และนายคมกริช สุรภักดี สถาปนิกปฏิบัติการ
ร่วมนำเสนอให้ข้อมูลถึงเหตุผลและความจำเป็นของโครงการฯ
ก่อนเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100
คน
นายกิตติภูมิ
นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง กล่าวถึงเหตุผลของโครงการปรับปรุงถนนดวงรัตน์ว่า ถนนสายนี้เป็นถนนสายหนึ่งที่เป็นหน้าตาของเมืองลำปาง
มีลักษณะความกว้างกว่า 60 เมตร และความยาวกว่า 600 เมตร
เป็นเส้นทางที่มีประชาชนใช้ในการสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันสภาพผิวจราจร
เกาะกลางถนน และสภาพภูมิทัศน์โดยรอบ ทรุดโทรมเปลี่ยนแปลงสภาพตามกาลเวลา เนื่องจากการปรับปรุงครั้งสุดท้ายที่ผ่านมานานกว่า
10 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นงบประมาณของจังหวัด ประมาณ 15 ล้านบาท ถนนมีความชำรุด ผุกร่อน
เซรามิกกะเทาะออก จึงต้องมีการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะสม
รวมทั้งซุ้มประตูซึ่งเป็นแห่งเดียวที่มีอยู่ก่อนเข้าสู่เมืองลำปาง ปัจจุบันยังคงเป็นซุ้มที่สร้างไว้เพื่อเฉลิมฉลองรัชกาลที่
9 แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนรัชกาลแล้ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการปรับปรุงซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ
เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ปรับปรุงซ่อมแซมสตรีทเฟอร์นิเจอร์
ปรับปรุงระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ประกอบกับเทศบาลได้รับการร้องเรียนจากประชาชนอยู่บ่อยครั้งว่าทางเท้าเสียหายและลื่น
เกิดอุบัติเหตุแล้วหลายครั้ง ควรปรับปรุงพื้นผิวทางเดิน และงานอื่น ๆ
เพื่อส่งเสริมความเป็นอัตลักษณ์ของเมืองลำปาง
นายยกเทศมนตรี กล่าวว่า เดิมได้ตั้งงบประมาณโครงการไว้ตั้งแต่ปี 60 จำนวน 16 ล้านบาท ซึ่งการจัดทำโครงการดังกล่าว เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม จึงต้องจัดรับฟังความคิดเห็น ที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่สอบถามบ้านเรือนต่างๆมาแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งจะนำข้อมูลมารวบรวมเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินการ ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้มาจากภาษีของประชาชน ต้องดำเนินโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยงบประมาณที่ใช้เป็นการตั้งประมาณการไว้ อาจจะไม่ได้ใช้งบทั้งหมดก็ได้
สำหรับการปรับปรุงในเบื้องต้นว่า
จะไม่มีการตัดต้นไม้ในบริเวณดังกล่าว แต่จะมีการปลูกเสริมเข้าไปให้สวยงาม
ส่วนคอนกรีตที่แตกเสียหายก็จะทำออก ส่วนเซรามิกก็ยังจะคงไว้อยู่แต่ซ่อมแซมให้ดียิ่งขึ้น
รูปแบบจะเป็นการปลูกไม้ดอกไม้ประดับไว้บริเวณเกาะกลางถนน
แซมกับต้นไม้ที่มีอยู่เดิม เพื่อเพิ่มความสวยงามยิ่งขึ้น
จากนั้นในที่ประชุมจึงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมรับฟังได้แสดงความคิดเห็น โดยร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยการอภิปรายสด
คนละ 5 นาที มีผู้แสดงความคิดเห็น
จำนวนรวม 11 คน โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับปรุงถนนดวงรัตน์ในส่วนที่ชำรุดเสียหาย
และปรับปรุงซุ้มเฉลิมพระเกียรติให้สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำปาง ขณะเดียวกันมีการแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในแนวทางอื่นๆที่หลากหลายเช่นกัน
เช่น การท้วงติงเรื่องงบประมาณ 16 ล้าน
ที่สูงมากเกินไปในการปรับปรุงถนน
นายสมบูรณ์
คุรุภากรณ์ สมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง กล่าวว่า
เห็นด้วยในการปรับปรุงทางเท้าที่มีความลื่น และเสริมแสงไฟบริเวณถนน แต่กังวลในเรื่องของมูลค่าโครงการที่สูงถึง 16
ล้านบาท ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะถึง
และประหยัดลงกว่านี้ได้
เช่นเดียวกับนายเอกสิทธิ์
มานะรุ่งโรจน์ ที่กล่าวว่า งบประมาณในการปรับปรุงสูงเกินไป
ในเมื่อไม่ได้มีการตัดต้นไม้ออก การปรับปรุงถนนงบก็ไม่น่าจะเกิน 5
ล้านบาท
นอกจากนั้นยังได้กล่าวถึงเรื่องของทางเท้าว่าที่ผ่านมาเกิดปัญหามีคนลื่นล้มกันมาหลายคนแล้ว
โดยผู้อภิปราย แสดงความคิดเห็นว่า การทำทางเท้าควรใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานของทางหลวง
ไม่ใช่การนำเซรามิกมาทำ เนื่องจากไม่เหมาะสมเพราะมีความลื่น
การทำทางเดินเพื่อให้คนเดิน ไม่ใช่ทำไว้เพื่อโชว์
ควรเน้นเรื่องความสะอาดและปลอดภัยมากกว่า
อีกประเด็นคือ
เรื่องการดูแลรักษาหลังการปรับปรุงถนนเสร็จแล้ว
เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลซ่อมแซ่ม บำรุงรักษา
จึงทำให้เกิดชำรุดเสียหายเหมือนทุกวันนี้
นายสามารถ
พุทชา ประธานองค์กรชุมชนเทศบาล กล่าวว่า
การปรับปรุงเป็นเรื่องสำคัญเป็นหน้าเป็นตาของชาวลำปาง
การดูแลรักษาก็เช่นกันหลังจากทำแล้วต้องดูแลไม่ใช่ปล่อยให้พังเสียหาย รวมถึงเรื่องแบบแปลนแผนงาน ทางเทศบาลควรจะมีให้ดูด้วยเพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะทำอะไรตรงไหนใช้งบประมาณเท่าไร
ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน
ทั้งนี้
ทางเทศบาลนคร ได้จัดทำแบบสำรวจเพื่อรับฟังความเห็นของประชาชน จำนวน 200 ชุด
เพื่อนำข้อมูลไปประกอบด้วย
ขณะที่ทางสื่อสังคมออนไลน์
ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้จำนวนมาก โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง กล่าวว่า ทำงานเหมือนคนจับจดคือทำงานไม่เสร็จเป็นอย่างๆ
น่าจะมีทำวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ภาคประชาชนจะได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
ซึ่งแท้จริงแล้วทางเทศบาลน่าจะไปเร่งรัดโครงการต่างๆที่ยังคงค้างให้สำเร็จเสียก่อน
ก่อนที่จะริเริ่มโครงการใหญ่ใหม่อีก และถนนดวงรัตน์ถ้ามีการปรับปรุงจริงๆ
ได้มีการวางแผนรองรับการจราจรได้อย่างไร ยังจำตอนปิดถนนเพื่อวางท่อกลางเมืองได้หรือไม่
รถติดเหลือเกิน และไหนแผนการบำรุงรักษาในอนาคตอีก
ขอช่วยเร่งรัดการก่อสร้างศาลหลักเมืองก่อนได้ไหม พิพิธภัณฑ์ลำปาง
และการวางท่อระบายน้ำกลางเมืองที่ผ่านมาไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างที่คิด
ปัญหาสวนสาธารณะเทศบาล 7 ทรุดโทรม
ถนนหนทางรกรุงรัง แก้ปัญหาเหล่านี้ก่อนดีไหม เก็บโครงการใหม่ไว้ก่อน
ใกล้มีการเลือกตั้งแล้วถ้าทำงานดีๆ ชาวบ้านเลือกเข้ามาใหม่ค่อยทำก็ได้
ความคิดเห็นนี้ไม่ได้มีอคติต่อท่านแต่อย่างไร แต่หวังใจเพียงแค่อยากเห็นบ้านเกิดเมืองนอนพัฒนาอย่างยั่งยืนและพัฒนาอย่างถูกทิศทางเท่านั้นเอง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกราย
แสดงความคิดเห็นว่า ควรสร้างศาลหลักเมืองให้เสร็จก่อน และตลาดเทศบาล4 หน้าบิ๊กซีอีก มีแต่โครงหลังคา ยังไม่เห็นมีใครทำงานเลย
แล้วยังจะไปทำถนนดวงรัตน์ อีกทำโครงการอะไรก็ไม่เสร็จสักอย่าง เมื่อไหร่เขาจะเลือกตั้งนายกใหม่เสียที
ส่วนอีกราย ระบุว่า ทำไมรีบสรุป
ทำไมรีบก่อสร้าง ทั้งที่ถนนก็ยังใช้ได้อยู่ มีอีกหลายโครงการที่ควร
จะทำ เงิน16ล้าน
เอาไปทำไรที่มีประโยชน์ให้กับชาวบ้านได้อีกเยอะแยะ
เงินภาษีน่าจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านี้
ต่อพนังกั้นน้ำทำถนนเอาไฟเข้าเลาะแม่น้ำวังต่อจากเขื่อนยางไปทางสะพานหน้าวัดท่าคราวน้อย
จุดนี้อยู่ใกล้ๆใจกลางเมือง แต่เสมือนอยู่ในโลกมืด มีการลักลอบทิ้งขยะริมตลิ่งและ
มั่วสุม นักเรียนหนี โรงเรียนมาพลอดรักกัน
และเป็นการแบ่งเบาจราจรยามรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนด้วย เอาให้เป็นหน้าเป็นตาปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่นตลอดแนว
สำหรับการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้
นายกเทศมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นการทำประชาพิจารณ์แต่อย่างใด
เป็นเพียงการรวบรวมข้อเสนอแนะของประชาชน
เพื่อนำมาปรับให้สอดคล้องกับโครงการว่าประชาชนต้องการให้มีการปรับปรุงในส่วนใดบ้างให้มีความเหมาะสมและดีที่สุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น