ลำปางเดินหน้ายกระดับคุณภาพมาตรฐานผลผลิตสับปะรดขายผลสด
ดันเกษตรอุตสาหกรรมรวมเป็นแปลงใหญ่ขายขึ้นห้าง-ส่งออก ลดการผลิตขายส่งเข้าโรงงานอาหารกระป๋อง
เมื่อกลไกตลาดราคาสับปะรดเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล
และความต้องการตลาดในประเทศไทย ทำให้ราคาสับปะรดลำปางผกผันในปีนี้ตกต่ำกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก
เนื่องจากพื้นที่ปลูกมีเท่าเดิมแต่ผลผลิตดีขึ้น เช่นเดียวกับพื้นที่ปลูกในภาคกลาง
และภาคตะวันออก โดยเฉพาะที่ประจวบคีรีขันธ์ มีผลผลิตมากมีผลให้โรงงานอาหารกระป๋องแถบภาคกลางรับซื้อสับปะรดจากลำปางน้อยลง
ในคราวที่นายลักษณ์
วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมา ประธานเปิดงาน
“โครงการเชื่อมโยงการตลาดสับปะรดลำปางแบบยั่งยืน โดยกลไกสหกรณ์/ประชารัฐ” ณ
สหกรณ์ผู้ปลูกสับปะรดลำปาง จำกัด ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 24 พ.ค.
2561 ได้เผยข้อมูลล่าสุดว่า แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราคาสับปะรดอยู่ในเกณฑ์ดี และปีนี้มีรายงานข้อมูลภาพรวมผลผลิตทั้งหมดทั่วประเทศมากเกินกว่าความต้องการรับซื้อของโรงงาน
ซึ่งรับได้ราวปีละ 2.6 ล้านตัน แต่ปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิต 3.8
ล้านตัน ซึ่งจะมีจำนวนส่วนต่างจากการขายเข้าระบบโรงงานจำนวนมาก
ทางออกเร่งด่วนจึงขอให้ทุกจังหวัดที่มีผลผลิตสับปะรด ช่วยกระจายผลผลิตไปขายผลสด
ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลเพื่อป้องกันปัญหาล้นตลาดจนเกินแก้
และยังได้สนับสนุนแนวทางพัฒนา “ลำปางโมเดล”
ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ซึ่งกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์สับปะรด
เป็นวาระสำคัญของจังหวัด ตามแผนปฏิบัติการเกษตรสุขภาพ เกษตรคุณภาพ
โดยได้ใช้งบประมาณพัฒนาจังหวัดเพื่อสนับสนุน เน้นการพัฒนาผลผลิตสับปะรด
ตามแนวทางเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้สามารถขายผลสดรสชาติดีซึ่งได้ราคาดีกว่าขายเข้าโรงงาน
และพัฒนาพันธุ์สับปะรดผลสด MD2 เป้าหมายขายส่งออกต่างประเทศ
รวมถึงการพัฒนาพันธุ์สับปะรดลำปาง ด้วยเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
โดยมีสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาลำปาง ร่วมกับสภาอุตสาหกรรม
และภาคเอกชนวางแผนการตลาดชูจุดขายสับปะรดลำปาง “หวานสด รสน้ำผึ้ง” ซึ่งต่างจากสับปะรดจังหวัดอื่นๆ
นอกจากนี้ยังได้ วางแผนด้านสนับสนุนพัฒนาการแปรรูปสับปะรดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
โดยมี สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้เกิดการพัฒนาสับปะรดทั้งระบบแบบยั่งยืน
ให้โมเดลการพัฒนาสับปะรดแบบยั่งยืน
เป็นพืชเศรษฐกิจคู่เมืองลำปางและเป้าหมายที่น่าสนใจคือการขายส่งออกต่างประเทศ
เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ดูแนวทางตลาดแถบรัสเซีย
และยุโรปตะวันออก ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำสับปะรดเข้มข้น และ สับปะรดกระป๋อง คุณภาพดี
และกรมปศุสัตว์ก็กำลังพัฒนาผลการทดลองการนำผลสับปะรดที่เหลือทิ้งจากขายเข้าโรงงาน
เอาไปทำน้ำหมักพืชอาหารสัตว์ สำหรับเลี้ยงโคนม
ซึ่งมีผลพลอยได้ด้านสุขภาพและเพิ่มปริมาณน้ำนมโคซึ่งช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
ธวัชชัย สิทธิวีระกุล
เกษตรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่าปัจจุบันลำปางมีพื้นที่ปลูกประมาณ 24,000
กว่าไร่ ผลผลิตภาพรวมทั้งหมดมากกว่า 60,000 ตัน
แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งโรงงาน 80% บริโภคสดประมาณ 19%
แปรรูปประมาณ 1%
ทั้งนี้ทางจังหวัดลำปางได้กำหนดการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพผลผลิตสับปะรด
ร่วมกันแบบบูรณาการภายใต้ วาระ “เกษตรสุขภาพ เกษตรคุณภาพ”
ในส่วนของสำนักงานเกษตรจังหวัดนั้น
ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.)
ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรครบวงจรทุกอำเภอ สำหรับพืชสับปะรดนั้น ศพก.อำเภอเมือง เป็นศูนย์ที่ได้รับการยอมรับเป็นระดับ A
ซึ่งมีประธานศูนย์เป็นเกษตรกรจิตอาสาได้ศึกษาและจัดทำต้นแบบการพัฒนาการปลูกสับปะรดคุณภาพ
ตั้งแต่การปรับปรุงดิน เรื่องน้ำของชลประทาน เรื่องระบบการทำปุ๋ยหมัก
ปุ๋ยน้ำชีวภาพ การใช้สารชีวภัณฑ์ เพื่อกำจัดศัตรูพืชของสับปะรด
เพื่อให้ได้ผลผลิตตลอดทั้งปีขายได้ราคา ให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดสามารถเข้าไปเรียนเหมือนโรงเรียน
แล้วนำความรู้ไปพัฒนาในแปลงปลูกของตนเองให้มีประสิทธิภาพ
ขณะนี้ทางจังหวัดได้ส่งเสริมให้พัฒนาในรูปของเกษตรแปลงใหญ่
คือการรวมแปลงปลูกสับปะรดพื้นที่ใกล้เคียงกันรวม 1,000 ไร่ ขณะนี้มีเกษตรกรตำบลเสด็จ อ.เมืองลำปาง จำนวน 120 ราย รวมพื้นที่ปลูกมากกว่า 700ไร่
ร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพการผลิตทุกกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีเกษตรกรปลูกสับปะรดนอกพื้นที่โครงการแปลงใหญ่ร่วมในโครงการพัฒนาผลผลิตสับปะรดคุณภาพมาตรฐาน
GAP มีจำนวน 390
ราย รวมพื้นที่เกือบ 5,000ไร่
ได้ผลผลิตมาตรฐาน GAP ปีไม่น้อยกว่า 17,000 ตัน และกำลังขยายพื้นที่ทุกปี
ตามแผนพัฒนาเกษตรอุตสาหกรรมให้สามารถตอบสนองความต้องการตลาดใหม่ เช่นการขายส่ง ส่งขึ้นห้างสรรพสินค้า หรือโมเดิร์นเทรด
ขณะเดียวกัน ทาง มทร.ล้านนาลำปางยังพัฒนาการเพาะเนื้อเยื่อสับปะรดสายพันธุ์ใหม่ของลำปาง
และมีแผนส่งเสริมการปลูกสับปะรดพันธุ์ MD2
เพื่อเป้าหมายขายสับปะรดส่งออกญี่ปุ่น ปีละ 400-600 ตู้คอนเทนเนอร์
(40 ตัน)
แผนปฏิบัติการเหล่านี้นับเป็นวาระการพัฒนาแก้ปัญหาผลผลิตสับปะรดลำปาง
ที่ยังต้องขับเคลื่อนกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าผลผลิต
ยกระดับให้เกษตรกรสามารถปลูกสับปะรดมาตรฐานขายผลสดเพิ่มขึ้นเพื่อลดจำนวนผลผลิตขายเข้าโรงงาน
อย่างต่อเนื่อง เพื่อการแก้ปัญหาสับปะรดทั้งระบบได้อย่างแท้จริง
วันที่ 31 พฤษภาคม 2561 จังหวัดลำปางมอบปัจจัยการพัฒนาศักยภาพการผลิต ให้ ศพก. ลำปาง ประกอบด้วยรถไถ น้ำหมักสูตรนม
เครื่องมือการเกษตรพลากสติกคลุมแปลง เพื่อช่วยรักษาความชื้นและป้องกันวัชพืช
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น