เกษตรกรครวญลงทุนปลูกผักกาด
แต่เกิดเหี่ยวตายทั้งแปลงไม่ทราบสาเหตุ
ด้านเทศบาลตำบลทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่มรุดตรวจสอบ
เบื้องต้นคาดเกิดจากยาฆ่าแมลงตกค้างในเครื่องพ่น ต้องรื้อทิ้งทั้งหมดและปลูกใหม่
สูญเงินเกือบ 3 หมื่นบาท นายกฯเตือนให้ระมัดระวังในการใช้เครื่องมือ
เมื่อวันที่
2 ก.ย.2561 นายถวิล กุญชร นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ได้มอบหมายให้สิบเอกสุรชัย ต่อสู้ เจ้าพนักงานป้องกันเทศบาลตำบลทุ่งผึ้ง
เดินทางเข้าตรวจสอบไร่ผักกาดของนายเมิน มั่นแม่น อายุ 58 ปี ชาวบ้านแจ้คอน
ม.6 ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง
ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน หลังรับแจ้งจากนายเมิน
ว่าผักกาดเขียวปลีที่ปลูกไว้เหี่ยวเฉาตายทั้งหมด โดยไม่ทราบสาเหตุ
จากการตรวจสอบพบว่าผัดกาดเขียวปลีที่นายเมินไว้บนพื้นที่ประมาณ
1 ไร่ เกือบทั้งหมด เหี่ยวเฉาบางต้นใกล้ตาย ซึ่งนายเมิน
บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนที่ผักกาดเขียวปลีที่ปลูกไว้และกำลังเติบโตเตรียมเก็บไว้จำหน่ายให้กับพ่อค้าเพื่อนำไปทำผักกาดดองจะเหี่ยวเฉา
ตนได้นำเครื่องพ่นไปพ่นยาฆ่าหญ้า จากนั้นไม่ได้ล้างทำความสะอาดแบบถี่ถ้วน ก่อนจะนำเครื่องพ่นมาใช้งานในสวนผักกาด
ปรากฏว่าผ่านไปประมาณ 1 วัน
ผักกาดที่ปลูกไว้เกิดเหี่ยวเฉาใกล้ยืนต้นตายไม่ทราบว่าสาเหตุ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว
จากการสันนิษฐาน
คาดว่า น่าจะมาจากยาฆ่าหญ้าตกค้างในเครื่องพ่น
เนื่องจากทำความสะอาดไม่หมด พอนายเมินนำมาใช้งานพ่นในสวนผักกาด จึงมีส่วนผสมของยาฆ่าหญ้าติดค้างอยู่ในท่อ
ทำให้ต้นผักกาดโดนยา และค่อยๆเหี่ยวเฉาดังกล่าว หรืออาจจะมาจากการใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่อย่างไรก็ตามจะได้ประสานเจ้าหน้าที่เกษตรหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบหาเหตุต่อไป
ด้านนายถวิล
กุญชร นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งผึ้ง กล่าวว่า เทศบาลตำบลทุ่งผึ้งแจ้งเตือนพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่
ควรใช้ความระมัดระวังในการใช้เครื่องมือการเกษตร รวมทั้งควรปฏิบัติตามขั้นตอนให้ถูกต้องควรปรึกษาเจ้าหน้าที่
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการทำการเกษตร หรือแจ้งทางเทศบาลเพื่อจะได้ประสานหน่วยงานลงพื้นที่ให้ความรู้ในการทำการเกษตรที่ถูกต้องต่อไป
สำหรับไร่ผักกาดเขียวที่เหี่ยวตาย
ทางนายเมินต้องทำการรื้อทิ้งออกทั้งหมด และต้องลงทุนปลูกใหม่
ซึ่งมีค่าความเสียหายประมาณ 30,000 บาท
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น