
ในวาระแห่งชาติของการก้าวข้ามรูปแบบพัฒนาด้านการท่องเที่ยวประเทศไทย
จากเน้นแนวธุรกิจ ย้อนกลับมาเป็นการขายบรรยากาศและวิถีพื้นบ้าน
ให้คนต่างถิ่นต่างที่ทั้งในและต่างประเทศไปเยือน เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนรายได้เข้าถึงระดับหมู่บ้าน
ชุมชนท้องถิ่น
หากแต่การเริ่มต้นของชุมชนที่จะก้าวสู่วงการท่องเที่ยวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้หน่วยงานท่องเที่ยวหลายองค์กรจะนิยามว่า “ต้องเริ่มจากชุมชน” เพราะคำนิยามของการท่องเที่ยวโดยชุมชน
(Community
– Based Tourism – CBT) หรือ แหล่งท่องเที่ยวในชุมชน (Village
Tourism) ถือเป็นเครื่องมือสร้างความเข้มแข็งขององค์กรชาวบ้านในการจัดการทรัพยากร
ธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน
ให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการพัฒนาและได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว
เช่นเดียวกับที่
ความเห็นของ อนันต์ สีแดง ผอ.ททท.ลำปาง พูดในเวทีเสวนา ลานนาฟอรัม เมื่อวันที่
28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เรื่อง "ท่องเที่ยววิถีชุมชนยั่งยืน
โอกาสและความท้าทายของลำปาง" หลักการของการท่องเที่ยวโดยชุมชน
ต้องเริ่มต้นโดยคนในชุมชน
ขณะที่
คนในกลุ่มที่เริ่มต้นเป็นเจ้าของการให้บริการท่องเที่ยวในชุมชนที่มาร่วมเวทีเสวนา
ก็มีความคาดหวังหรือคำถามในใจของชุมชนว่า เมื่อชุมชนเริ่มต้นเรียนรู้เป็นผู้ให้บริการท่องเที่ยวตามที่รัฐส่งเสริม
แล้วจะเดินต่อในแง่ของการตลาดและการเชื่อมโยงให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวที่แท้จริง
เกิดผลตอบแทนที่เป็นธรรมแก่คนท้องถิ่นที่ยั่งยืนอย่างไร..? รวมไปถึงนโยบาย
โครงการโอทอปนวัติวิถี ที่มีต้นทางมาจากภาครัฐ
แต่คนในชุมชนไม่มีส่วนร่วมในการคิดและกำหนดแนวทาง แต่กลับกลายเป็นแค่ปลายทางรับพัสดุภัณฑ์เพื่อใช้ในกิจกรรมการท่องเที่ยว
ที่ไม่ตรงกับวิถีและความต้องการของเขาเลยนั้น...ช่างเป็นคำถามที่ท้าทาย
“ให้โอกาสชุมชน
เข้าถึงตลาด”
สดศรี
ขัติยวงศ์ กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนท่ามะโอ อ.เมืองลำปาง มองว่าในฐานะที่เธอและเพื่อนสมาชิกในชุมชนที่ร่วมกันทำท่องเที่ยวชุมชนท่ามะโอ
ซึ่งเริ่มต้นจากการทำงานแบบจิตอาสากว่า 3 ปี จึงได้รับการสนับสนุนจาก
กรมการท่องเที่ยว และ สำนักงานการท่องเที่ยว(ททท.) รวมถึงพัฒนาชุมชน
ในโครงการท่องเที่ยวนวัตวิถีในปีนี้
ล่าสุด อพท.ยั่งยืนจะเข้ามาทำการท่องเที่ยวยั่งยืน นับว่าเป็นกำลังใจสำคัญ
สำหรับกลุ่มใหม่ๆที่อยากเดินเข้าสู่การท่องเที่ยวชุมชนที่ยั่งยืน ว่าเราสามารถทำได้จริง
แต่อยากขอให้ทางจังหวัด หรือภาครัฐช่วยสนับสนุนพื้นที่การตลาด
ที่สามารถไปขายการท่องเที่ยววิถี อัตลักษณ์ สินค้าชุมชนในแหล่งที่มีลูกค้า เช่น
กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัดในงานระดับภาค รวมถึงการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนเข้าสู่ตลาดอย่างจริงจัง
เช่นเดียวกับที่รัฐ หรือ ททท.สนับสนุนการทำตลาดของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเอกชน
‘แวว’ วรางคณา อินปัน ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถีบ้านห้วยเรียน
ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง บอกว่า ในมุมของชุมชนยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการต้อนรับ
และให้บริการการท่องเที่ยว รวมถึงศักยภาพของการทำตลาด การประชาสัมพันธ์ แต่คนที่ทำงานเริ่มต้นด้านการท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมีจิตอาสา
แต่อาจจะไม่มีพลังมากพอจะรวบรวมคนในชุมชนให้มองเห็นประโยชน์ และร่วมกันทำท่องเที่ยวในชุมชนร่วมกัน
ถือเป็นอุปสรรคของการทำงานของคนระดับชุมชนนำไปสู่การท่องเที่ยวได้อย่างจริงจัง
“การเชื่อมโยงการตลาด”
ขณะที่ นวลศรี
พรมไชยวงค์ เสนอว่า ในฐานะที่เธอก็อยู่ในวงการท่องเที่ยวมาหลากหลาย
และกำลังพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของตนเองในหมู่บ้านห้วยเรียน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่มีต้นทุนทางธรรมชาติที่มีวิวภูเขา
อากาศเย็น เชื่อมโยงเส้นทางกับดอยขุนตาน และมีจุดขายแหล่งวัฒนธรรม แต่เมื่อ
คนในชุมชนเริ่มต้นทำท่องเที่ยวไปแล้ว แต่ยังขาดการเชื่อมโยงและการตลาด
นำนักท่องเที่ยวเข้าถึง ทำให้คนทำท่องเที่ยวชุมชนขาดกำลังใจและความต่อเนื่อง
เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวจริง
“ทบทวนตัวเลขรายได้การท่องเที่ยว..ที่แท้จริง”
ด้าน นายศักดิ์
ส. รัตนชัย ผู้สื่อข่าวอาวุโส และผอ.หอจดหมายเหตุลำปาง ได้ฝากคำถามที่น่าติดตามไว้อย่างตรงไปตรงมา
ว่ามัคคุเทศก์ของลำปางคนแรก เป็นมัคคุเทศก์ของ อสท.ซึ่งมีบทบาทในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวลำปางมากมาย
ในแง่มุมของการท่องเที่ยวชุมชนนั้นมีคนนึกถึงการสนับสนุนการพัฒนา และการตลาดอย่างจริงจังน้อยมาก
และฝากคำถามถึง ททท.
ว่าจริงหรือเท็จกันแน่ว่าลำปางมีรายได้ อยู่ในอันดับต้นๆซึ่งมีรายได้สูงมาก
เป็นตัวเลขที่มาจากท่องเที่ยวจริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องเจาะข้อมูล ทบทวน
ให้เกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนที่จริงใจ
ผศ.ดร.นันทินา
ดำรงวัฒนกุล คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ให้ความเห็นว่า หลังจากทางคณะได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน
ด้านองค์ความรู้ในการบริหารจัดการด้านอาหาร ที่มีอัตลักษณ์ของชุมชน ตามโครงการที่อำเภอแจ้ห่ม
แต่ประสบการณ์ที่ทำงานในพื้นที่พบว่า ผู้นำชุมชนรวมถึงหน่วยงานในพื้นที่ ต้องทำงานร่วมกันแบบเชื่อมโยงระบบให้มีเป้าหมายเดียวกัน
มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อน อีกประการคืออัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ต้องชัดว่ามีอะไรโดดเด่น ขณะเดียวกันก็ ฝากคำถาม ถึง ททท. คือ
มีแนวทางสอดรับ พัฒนาชุมชน ด้านท่องเที่ยวโอทอปนวัตวิถี มีแนวทางการตลาด
ให้ท่องเที่ยวชุมชน ซึ่ง ผอ.ททท.ลำปางตอบว่า
ททท.มีบทบาทนำชุมชนที่พัฒนาความพร้อมแล้ว ขายเป็นโครงการนำร่องซึ่งเฟสแรกยังไม่มีลำปางในโครงการ
แต่เชื่อว่าจะมีเพิ่มเติมในปีถัดไป
ในบทสรุปเบื้องต้นของการเสวนาพบเจอกันในเวทีนี้
ล้วนแต่ยิงเป้าหมายคำถามไปที่การตลาดและการเชื่อมโยงให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชนที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวอย่างจริงจังยั่งยืน
บทพิสูจน์ของชุมชน
ที่จะก้าวสู่การเป็นเจ้าบ้าน บานะผู้ให้บริการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
จะเดินด้วยตนเองหรือมีพี่เลี้ยงจากหน่ายงานในพื้นที่ ไปสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน
การตลาด โดยบทบาท ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลำปาง
จะสอดรับกับเส้นทางขับเคลื่อนชุมชนให้มีรายได้จริงแบบไหน คงต้องติดตามดูกันอีกยาว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น