เมียหลวงสุดทน
เหตุสามีปันใจให้หญิงอื่น ขี่ จยย.มานั่งดักรอ กระทั่งพบรถเก๋งสามีจอด จึงใช้ปืน 9
ม.ม.ยิงไม่ยั้ง อาการสาหัสทั้งคู่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพปั๊มหัวใจช่วย
แต่ฝ่ายหญิงเสียชีวิตที่ รพ. ส่วนมือยิงรอบมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อเวลาประมาณ
18.15 น.วันที่ 9 ม.ค.62 ศูนย์วิทยุ 191
ภูธรจังหวัดลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านขายเสื้อผ้ามือสอง
ต้นขวัญแฟชั่น เลขที่ 9 ถนนข้างวัดนาก่วมใต้ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้บาดเจ็บสาหัส หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ
และประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง
ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วน
จากนั้น พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.พินิจ
เนตรปัญญา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิภพ
ขัติฤกษ์ รอง ผกก.ป ร.ต.อ.ณฐชนนท์ เพ็งสิน
รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สืบสวนจำนวนหนึ่ง
ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บจำนวน
2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1
คน โดยฝ่ายชายได้ล้มลงนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนน
เข้ารถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนด์เงิน หมายเลขทะเบียน กพ 6682
ลำปาง ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยจึงได้นำตัวเข้ามาริมฟุตบาทก่อนจะทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือ
ส่วนฝ่ายหญิงได้นอนหมดสติอยู่ด้านหน้าร้านขายเสื้อผ้ามือสอง
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตรวจวัดชีพจร และทำการปั๊มหัวใจช่วยเหลือเช่นกัน
ถึงทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำขึ้นรถกู้ชีพและนำส่งโรงพยาบาลลำปางทันที เบื้องต้นทราบชื่อคือ น.ส.ฐิติชดา ตันบุศย์
อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านไหล่หิน หมู่ 1 ต.บ้านใหม่พัฒนา
อ.เกาะคา จ.ลำปาง เป็นเจ้าของร้านต้นน้ำแฟชั่น และนายอนุวัตร ใจดี อายุ 52 ปี ราษฎรบ้านป่าเหียง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนตกอยู่กลางถนน และรอบรถเก๋ง จำนวน 4 ปลอก และลูกกระสุนตกอยู่ 2 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กั้นจุดเกิดเหตุเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
เข้าทำการตรวจสอบ
ส่วนผู้ก่อเหตุ
คือ นางประภา ใจดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372 หมู่ 2
ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นภรรยาของนายอนุวัตร ใจดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดอาวุธปืนซีแซด ขนาด 9
ม.ม. จำนวน 1 กระบอก มาเก็บไว้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า
นางประภาได้ขี่รถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 1กฆ 3379 ลำปาง
มาจอดไว้ด้านหน้าร้านขายของชำข้างตลาดนาก่วมใต้
และได้เฝ้ารออยู่ จนกระทั่งพบเห็นรถยนต์เก๋งนิสสัน
ขับเข้ามาจอดบริเวณหน้าร้านต้นน้ำแฟชั่น ซึ่งภายในรถมีนายอนุวัตร และน.ส.ฐิติชดา
นั่งมาด้วยกัน จึงได้เดินเข้าไปหาและใช้อาวุธปืน 9
ม.ม.ยิงใส่ทั้งคู่ไปหลายนัดขณะที่กำลังลงจากรถ โดยนายอนุวัตรได้วิ่งไปล้มลงอยู่กลางถนน ส่วน
น.ส.ฐิติชดา พยายามวิ่งหลบหนีเข้าไปในร้านและล้มลงบริเวณหน้าประตู กระทั่งปืนขัดลำกล้อง นางประภา
จึงได้เกิดกลับมานั่งรอมอบตัวอยู่ด้านข้างร้านขายของชำ
โดยมีพลเมืองดีช่วยคุมตัวไว้ ก่อนจะแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เบื้องต้นนางประภา ให้การว่า
ตนเองทราบว่าสามีได้คบหากับ น.ส.ฐิติชดามานานแล้ว
และได้เคยบอกให้เลิกรากันหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมเลิกกัน ทำให้เกิดความคับแค้นใจ
จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอทั้งสองคน โดยได้ดื่มเบียร์ย้อมใจไป 2
กระป๋อง เมื่อเห็นรถมาจอดจึงเดินเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนอยู่นั้น
ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า น.ส.ฐิติชดา เสียชีวิตลงแล้ว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางประภา
ผู้ก่อเหตุไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ
10.30 น.วันที่ 10 ม.ค.62 กำลังเจ้าหน้าที่
ชุดสืบสวน สภ.เขลางค์นคร นำโดย พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง ผกก.สส. สภ.เขลางค์นคร
พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณฐชนนท์ เพ็งสิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร ได้ควบคุมตัว
นางประภา ใจดี อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 372 หมู่ 2 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง
ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านต้นขวัญแฟชั่น
ข้างวัดหน้าก่วมใต้ ต.ชมพู ซึ่งการทำแผนครั้งนี้ได้ทำไปอย่างรวดเร็ว
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาชี้จุดที่ลงมือยิงทั้งสองคนโดยใช้เวลาไม่ถึง 1
นาที ก็รีบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตำรวจก่อนนำตัวไป สภ.เขลางค์นคร
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายทันที ขณะที่บรรยากาศ ที่เกิดเหตุในวันนี้ต่างเงียบเหงา
ร้านที่เกิดเหตุและบ้านข้างๆกันต่างปิดประตูบ้านเงียบทั้งหมด
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1212 วันที่ 11 - 17 มกราคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น