
สังคมไทยมักมีจินตนาการเรื่องหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า
เป็นหนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าวเหตุการณ์ ข่าวอาชญากรรม ตี ชิง ปล้น ฆ่า ข่มขืน
บอกใบ้ ให้หวย หรืออิทธิฤทธิ์ ปาฎิหาริย์ มากกว่าการเสนอข่าวที่เป็นสาระ รวมทั้งมีงานวิจัยบางชิ้นที่ตั้งสมมติฐานว่า
ไม่มีพื้นที่ข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน หรือ Investigative Reporting ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
ทัศนคติของสังคมเช่นนี้ อาจเป็นจริงบางส่วนจากภาพที่สังคมเห็น
แต่สมมติฐานการทำข่าวเชิงสืบสอบสวนสวน เพื่อนำไปสู่การเปิดโปงทุจริต คอรัปชั่น
มีปัจจัยหลายประการที่เป็นข้อจำกัด
และอาจเข้าใจได้สำหรับการทำข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
การเกาะติดเรื่องราวการทุจริต คอรัปชั่นในพื้นที่
นับเป็นความยากลำบากเรื่องหนึ่งของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ไม่เพียงกำลังคน กำลังทุน
ที่น้อยนิด หากการเสนอข่าวคอรัปชั่นในพื้นที่ที่ใครๆก็รู้จักกันหมด
ก็นับเป็นความเสี่ยงในสวัสดิภาพ สูงยิ่งกว่าการทำข่าวประเภทเดียวกันในเมืองใหญ่
แต่นี่คือหน้าที่ คืออาชีวปฏิญาณ
ที่คนทำสื่อจะต้องแสดงให้เห็นประจักษ์ ชัดเจน ตรงไปตรงมา
และหวังว่ากุศลแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ จะปกป้องคุ้มครองการทำหน้าที่อย่างเคร่งครัดในหลักการได้
ห้วงระยะเวลาที่ผ่านมา “ลานนาโพสต์” ได้รายงานข่าว เจาะลึก (Investigative
Reporting) หลายเรื่องเช่น ข่าวทุจริตสร้างสนามกีฬา กองทุนไฟฟ้า
สหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง และสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5
จากจุดเริ่มต้น “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด” จนถึง
“สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”
สหกรณ์อีกหลายแห่งที่มีบทบาทคล้ายสถาบันการเงิน รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง
สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5 สหกรณ์เหล่านี้เป็นแหล่งแพร่เมล็ดพันธุ์แห่งการทุจริต
คอรัปชั่น ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินของสมาชิก
ที่ต่างก็มุ่งหวังพึ่งพาสหกรณ์เป็นหลักประกันชีวิตของพวกเขา
สำหรับปัญหาในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง
มีที่มาจากการที่คณะกรรมการชุดที่ 56 ได้ซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างสำนักงานแห่งใหม่
เป็นเงินรวม 252 ล้านบาท โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบพัสดุของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง
พ.ศ.2549 และไม่ทำตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ซึ่งกำหนดให้ซื้อที่ดินแปลงเดียว 15 ไร่ แต่มีการซื้อที่ดิน 2 แปลง รวมพื้นที่ได้ 14.3 ไร่ อีกทั้งยังมีลำเหมืองผ่านกลาง
นอกจากนั้นก่อนการจัดซื้อก็ไม่มีการตรวจสอบแนวเขตชี้วัด
เมื่อทำสัญญาแล้วปรากฏว่าที่ดินแปลงนี้หายไป 50 ตารางวา ขณะที่ที่ดินใกล้เคียง เฉลี่ยไร่ละ 53
ล้านบาทเศษ แต่ที่ดินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ราคาพุ่งสูงถึงไร่ละ 16.8 ล้านบาท ต่อมาสหกรณ์จังหวัด
สั่งให้ยุติการดำเนินการต่างๆในที่ดินผืนนี้ทันที
ส่วนกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธร ภาค 5 เกิดจากประธานสหกรณ์
กู้เงินสหกรณ์ไปทำธุรกิจอาวุธจำนวน 47 ล้านบาทเศษ
โดยมีเงื่อนงำ และไม่สามารถชำระหนี้ได้ภายในกำหนด
จนกระทั่งสหกรณ์ไปแจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอก
ทั้งสองเรื่องนี้ “ลานนาโพสต์” ได้ติดตามรายงานข่าว
เจาะลึกอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูลำปาง ศาลจังหวัดลำปางมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย
แก่สหกรณ์ หรือส่วนต่างราคาที่ดินรวมเป็นเงิน 126 ล้านบาท
พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขายที่ดิน จำเลยอุทธรณ์
คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ในขณะที่คดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรภาค 5
การติดตามรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประธานสหกรณ์นำเงินทยอยคืนสหกรณ์จนเสร็จสิ้น
เห็นได้ว่า หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นยังมีบทบาทที่จำเป็นต่อโลก มีพื้นที่ในการรายงานข่าวทุจริต
คอรัปชั่นซึ่งเกิดขึ้นเกือบทุกตารางนิ้วของประเทศนี้ ด้วยความกล้าหาญเชิงจริยธรรม
และความสุจริตตรงไปตรงมาเท่านั้น ที่จะทำให้คนโกงไม่มีที่ยืนในสังคมนี้
ทั้งกรณีการเสนอข่าวทุจริตสหกรณ์ครู และสหกรณ์ตำรวจภูธรภาค 5
จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้สังคมยังมองเห็นบทบาทและความสำคัญของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในประเทศนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น