ชาวบ้านนากว้าวเดือด ต้นไม้เหี้ยน นอภ.เปิดเวที

ชาวบ้านเดือดตัดไม้ริมถนนฝายน้ำล้นบ้านนากว้าวหายเกลี้ยง  หลังอำเภอเข้ามาดำเนินโครงการก่อสร้างผนังกั้นตลิ่ง  พบบางต้นถูกตัดไปครึ่ง ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะย้ายไปปลูกแห่งใหม่  ด้านนายอำเภอชี้แจงไม่ได้มีการตัด แต่เป็นการล้อมย้ายออกไป ขอเปิดเวทีพูดคุยกับชาวบ้านให้เข้าใจพร้อมกัน

จากที่ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่ม Maetha city  กรณีงบประมาณจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้า เพื่อพัฒนาลำน้ำจาง บริเวณฝายบ้านนากว้าว ซึ่งอยู่ริมถนนกลุ่มฮักน้ำจาง  ได้มีการตัดต้นไม้ออกไปทั้งเส้น ทั้งที่ครั้งแรกได้มีการพูดคุยกันว่าจะไม่มีการตัดต้นไม้ในจุดดังกล่าว ต่อหน้าพูดอย่างลับหลังพูดอย่าง ปากบอกพัฒนาแต่เริ่มต้นด้วยการทำลาย กลับกลอก ลักลั่นย้อนแย้ง ชื่อมาปลูกแต่นี่มาตัด กลัวจะไม่ได้งวดต่อๆไปหรือย่างไร ช่วยอธิบายให้หายข้องใจ

 

ต่อมาได้มีตัวแทนกลุ่มฮักกรีน ให้ข้อมูลว่า เรื่องการตัดต้นไม้นี้ได้พูดคุยกันว่าน่าจะมีวิธีการที่ไม่ต้องตัดต้นไม้ เพราะชาวบ้านไม่อยากให้ตัดเนื่องจากจุดดังกล่าวได้มีการรณรงค์ให้ทำเป็นอุโมงค์ต้นไม้และกาดเขียว ซึ่งชาวบ้านทั้งกลุ่มฮักน้ำจางและกลุ่มฮักกรีน  เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและผลักดันเรื่องการปลูกต้นไม้มาโดยตลอด  แต่เมื่อมีโครงการสร้างผนังกั้นตลิ่งเข้ามา จะมีการตัดต้นไม้ออก แต่ได้ตกลงกันว่าจะล้อมต้นไม้และย้ายให้ไปปลูกที่ใหม่ แต่พอไม่มีใครอยู่ในพื้นที่กลับมีการตัดต้นไม้ออกไป  เหมือนอยากทำให้โครงการเสร็จไป  น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้  อยากให้ทาง อบต. และท้องถิ่น คิดว่าการพัฒนาการอนุรักษ์น่าจะไปด้วยกันได้

เบื้องต้นทราบว่า โครงการนี้ได้เริ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เกิดปัญหาน้ำไหลเชี่ยวทำให้ผนังกั้นน้ำฝายบ้านนากว้าวแตกร้าว ชาวบ้านจึงได้ขอให้ทาง อบต.บ้านกิ่ว ช่วยซ่อมแซมให้แต่เนื่องจากงบประมาณสูง จึงได้ส่งเรื่องผ่านไปยังอำเภอ ในขณะนั้นนายธนิต สุภาแสน เป็นนายอำเภอแม่ทะ ได้ส่งเรื่องของบประมาณกองทุนรอบโรงไฟฟ้าให้ โดยก่อนจะส่งโครงการไปของบได้มีการจัดประชุมประชาคมชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว และแจ้งในที่ประชุมว่าการจะซ่อมแซมท้ายฝายต้องมีการตัดต้นไม้บางต้น  ชาวบ้านไม่มีปัญหาเพราะต้องการให้ซ่อมฝายให้ จนกระทั่งได้รับงบประมาณในปี 62 ดังกล่าว

ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยัง นางสุรีย์ มาปลูก นายอำเภอแม่ทะ  ได้รับการเปิดเผยว่า โครงการผนังกั้นตลิ่งพัง เป็นงบประมาณกองทุนโรงไฟฟ้า ที่ชาวบ้านได้ยื่นขอไว้ตั้งแต่สมัยนายอำเภอ ธนิต สุภาแสน  ในครั้งนั้นได้มีการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้านแล้ว โดยทราบว่าในที่ประชุมได้แจ้งในเบื้องต้นแล้วว่าการทำโครงการอาจจะต้องมีการตัดต้นไม้บางส่วนถ้าอยู่ในแนวก่อสร้าง ซึ่งชาวบ้านก็ยอมรับจึงยื่นของบประมาณไป และเพิ่งได้รับงบประมาณเข้ามาในปี 62 นี้ประมาณ 7 แสนบาท ก่อนดำเนินการได้มีวิศวกร ที่เป็นผู้วางแบบ ได้แจ้งว่าถ้าจะวางกล่องหินโดยไม่เคลื่อนย้ายต้นไม้ออก อาจจะมีปัญหารากต้นไม้ชอนไชไปดันโครงสร้างในอนาคต  เลยตกลงกันว่าจะย้ายต้นไม้ออก ทางผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน ผู้รับเหมา ตัวแทนชาวบ้านกลุ่มฮักน้ำจางก็อยู่ด้วยและทำข้อตกลงร่วมกัน และให้หาสถานที่แห่งใหม่ว่าจะนำไปปลูกตรงจุดไหน  โดยผู้รับเหมาได้ทำการล้อมต้นไม้และยกย้ายออกไป แต่ยังไม่มีใครแจ้งว่าจะให้ย้ายไปไว้ตรงจุดไหน และก็มีปัญหากันก่อน โดยในวันอาทิตย์ที่ 14 ก.ค.62 นี้ได้มีการนัดพูดคุยกับชาวบ้านถึงเรื่องนี้  

สำหรับการที่ต้นไม้ถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่ง ได้มีการสอบถามทางผู้รับเหมาแล้วทราบว่า การจะย้ายต้นไม้จะต้องมีการตอนต้นไม้ก่อน ที่จะขุดรากและลำต้นออก  รวม 11 ต้นที่อยู่ตามแนวการก่อสร้าง ทางผู้เรียกร้องจะต้องเข้าไปดูจุดว่าให้ย้ายไปจุดใด แต่ก็ยังไม่มีใครเข้าไปแต่อย่างใด

ล่าสุดทางตัวแทนกลุ่มฮักกรีนได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ และพบว่ามีการล้อมต้นไม้ออกไปจริง แต่ลักษณะของการล้อมนั้นใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ ชาวบ้านจึงเกิดความไม่พอใจในส่วนนี้ ซึ่งจะต้องมีการนำไปพูดคุยกันในการประชุมหมู่บ้านในวันที่ 14 ก.ค.62 นี้

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1237 วันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2562)