
ห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ใบไม้อีกใบหนึ่งก็ร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน
ตามวัฎจักรของสื่อสิ่งพิมพ์ที่โรยรา และทยอยดับสิ้นกันมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ครั้งนี้ เป็น The Nation หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษรายวัน 1
ใน 2 ฉบับของประเทศไทย ที่ยืนยงมาถึงวันนี้
ครบรอบ 48 ปี ความตายของเดอะเนชั่น จึงเป็นความตายที่ทรงคุณค่าและมีความหมายที่ควรจดจารไว้
ในฐานะที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเนชั่น ทั้งเนชั่นฐานบัญชาการใหญ่ที่กรุงเทพ
และเนชั่นที่ลำปางในฐานะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเนชั่นคนหนึ่ง
มีบางเรื่องราวที่ต้องการเล่าสู่กันฟัง อย่างน้อยก็เป็นกรณีศึกษาของแวดวสื่อมวลชน
ที่กำลังละทิ้งสื่อดั้งเดิม และมุ่งทำตัวให้กลมกลืนกับสื่อยุคดิจิตอล
ด้วยความเชื่อว่า นั่นคืออนาคต และความอยู่รอด
กลุ่มเนชั่น เริ่มจากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์
ด้วยการวมตัวกันของนักหนังสือพิมพ์ไทยกลุ่มหนึ่ง นำโดยนายธรรมนูญ มหาเปารยะ
นายสุทธิชัย หยุ่น และ ม.ร.ว.สุนิดา กิติยากร ทำหนังสือพิมพ์ชื่อ “The Voice of The Nation”
โดยมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านการผูกขาดกิจการหนังสือพิมพ์ของต่างชาติ
เริ่มตีพิมพ์เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2514 โดยผู้ก่อตั้งประกาศจุดยืนว่า “อิสรภาพในการนำเสนอข่าวและกล้าวิพากษ์วิจารณ์โดยปราศจากอคติใดๆ”
หลังจากก่อตั้ง 1 ปี บริษัทได้เปิดตัวหนังสือในเครืออีก 1
ฉบับ คือ “BUSINESS REVIEW” เป็นนิตยสารภาษาอังกฤษรายเดือน
มีเนื้อหาสาระและเรื่องราวทางด้านธุรกิจ เพื่อกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจและนักบริหาร
ฉบับแรกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2515
ต่อมาในเดือนตุลาคม 2530 บริษัทได้ออกหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวันภาษาไทย
ในชื่อ “กรุงเทพธุรกิจ” ซึ่ง “จอกอ” คือ 1 ในกรุงเทพธุรกิจยุคแรก
จากนั้นได้จัดทำสื่อสิ่งพิมพ์ในรูปแบบต่างๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น นิตยสารกรุงเทพธุรกิจสุดสัปดาห์
เนชั่นสุดสัปดาห์ เนชั่นจูเนียร์ หนังสือพิมพ์คิดนิวส์
หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์สำหรับเด็ก
นิตยสาร จุดประกาย Ent คู่มือการเตรียมความรู้สู่มหาวิทยาลัย
เป็นความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับกลุ่มเนชั่น
รวมทั้งเป็นผู้ผลิตและขัดจำหน่ายหนังสือการ์ตูนภาษาอังกฤษ - ไทย
หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ภายใต้ลิขสิทธิ์ของวอลท์ ดิสนีย์
และสำนักพิมพ์หลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น
ในปี 2534 กลุ่มเนชั่นได้เริ่มขยายบริการข่าวสารไปยังสื่อวิทยุและโทรทัศน์
โดยไม่มีการลงทุน อีกทั้งไม่มีเป้าหมายในเชิงธุรกิจ ทั้งนี้สื่อวิทยุเริ่มจากรายการสรุปและวิเคราะห์ข่าวสงครามอ่าวเปอร์เซีย
ขณะที่สื่อโทรทัศน์เริ่มจากการจัดรายการพิเศษ
วิเคราะห์วิกฤตการณ์สงครามอ่าวเปอร์เซียเช่นเดียวกัน ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3
อสมท.
นั่นเป็นจุดเริ่มต้น ก่อนที่กลุ่มเนชั่น
จะขยายไปสู่การทำรายการข่าวและวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศทางสื่อวิทยุและโทรทัศน์หลายช่อง
หลายคลื่นความถี่
สุทธิชัย หยุ่น อธิบายว่า การขยายบทบาทไปยังสื่ออื่นๆ
ไม่ได้ต้องการขยายฐานธุรกิจจากสื่อหนังสือพิมพ์ไปยังสื่อวิทยุและโทรทัศน์ให้ครบวงจร
แต่ความตั้งใจแต่แรกมาจากความเป็นนักหนังสือพิมพ์
ที่ต้องการเห็นการพัฒนาคุณภาพข่าววิทยุ และโทรทัศน์
โดยอาศัยช่วงจังหวะที่ผู้บริหารสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยเชิญไปดำเนินรายการวิทยุในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซีย
เนื่องจากมีการเสนอข่าวนี้ทุกวัน แต่ไม่มีใครอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
และความมุ่งมั่นตั้งใจของสุทธิชัย หยุ่น ก็เห็นภาพความเข้มข้นในเนื้อหาของข่าว
วิทยุและโทรทัศน์ที่ใกล้เคียงกับหนังสือพิมพ์มากขึ้น
และดีเอ็นเอความเป็นข่าวในแบบเนชั่น ก็ปรากฎชัดเจนในเวลาต่อมา
แม้ไม่บอกว่าเขาคือเนชั่น แต่ความชัดเจน ความกล้าหาญในการวิพากษ์วิจารณ์สังคม
ผู้มีอำนาจ อย่างตรงไปตรงมา โดยไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ ก็บอกอยู่ในตัวว่า
นี่คือสายเลือดเนชั่น
แม้วันนี้คนที่นั่งหน้าจอเนชั่น ยังประกาศตัวว่าเป็นเนชั่น แต่เขาอาจไม่ใช่เนชั่นอีกต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1236 วันที่ 5 - 11 กรกฎาคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น