รวบโจรจี้เซเว่น สารภาพสิ้นเพราะเมาเลยก่อเหตุ

จำนวนผู้เข้าชม

รวบตัวโจรจี้เซเว่น ตามสืบจากภาพวงจรปิดจนจับตัวได้ ผู้การฯลำปางคุมตัวทำแผน เผยก่อเหตุเพราะเมาและเสพยาจึงหาเงินซื้อเหล้าดื่ม

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ธ.ค.62  พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จว.ลำปาง  พร้อมด้วย พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สภ.เมืองลำปาง  และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดลำปาง สืบสวน สภ.เมืองลำปาง ร่วมกันนำตัวนายอนุรักษ์ เดชะ หรือมอส อายุ 23 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 124 ถ.ท่าคราวน้อย  ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอิเลฟเว่น  สาขาหน้าสวนสาธารณะเขลางค์นคร อ.เมืองลำปาง  หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดเข้าไปจี้ชิงทรัพย์พนักงาน แต่ไม่ได้เงินไปแม้แต่บาทเดียว ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี  

 

โดยในการทำแผนเจ้าหน้าที่ได้ให้นายอนุรักษ์ สวมเสื้อแขนยาวสีเขียวมีฮู้ด พร้อมแว่นตาดำ ชุดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุ  พร้อมนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ขคต 307 ลำปาง มาประกอบการทำแผน โดยจุดแรกได้ทำการชี้จุดที่นายอนุรักษ์ได้ชวนเพื่อนนำรถจักรยานยนต์มาจอด ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ และล้วงอาวุธมีดขึ้นมาขู่พนักงาน ก่อนจะเดินเข้าไปในเคาท์เตอร์เพื่อให้เปิดลิ้นชักเก็บเงิน แต่มีลูกค้าผู้ชายเดินเข้ามาก่อน 4 คน จึงได้วิ่งหลบหนีออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ให้เพื่อนจอดรออยู่ด้านหน้า

 

พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จว.ลำปาง กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวจากกล้องวงจรปิด ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชนให้เบาะแสมาจนกระทั่งได้ตัวผู้ต้องสงสัย จึงนำภาพมาให้ทางพนักงานร้านสะดวกซื้อชี้ตัวผู้ที่มีรูปพรรณใกล้เคียงที่สุด จนพบว่าคือนายอนุรักษ์ เดชะ เจ้าหน้าที่สืบสวนจึงได้เข้าทำการจับกุมตัว ซึ่งนายอนุรักษ์ให้การรับสารภาพว่า เหตุที่ทำลงไปเพราะเกิดอาการมึนเมาสุรา และได้เสพยาบ้ามาด้วย  แต่สุราหมดและไม่มีเงินซื้อจึงได้ชักชวนเพื่อนให้มาด้วยกันบอกว่าจะไปเอาเงิน  ได้มาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อโดยให้เพื่อนรอที่รถส่วนตนเองได้เข้าไปก่อเหตุดังกล่าว  จากนั้นได้หลบหนีและนำเสื้อที่ใส่ไปทิ้งไว้ในป่าข้างทางแถวริมแม่น้ำวัง ส่วนอาวุธมีดได้นำไปทิ้งในซอยตันแถวชุมชนท่าคราวน้อย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอยู่ 

 

พล.ต.ต.อนุชา กล่าวอีกว่า ถึงแม้คดีนี้จะไม่ได้สูญเสียทรัพย์สิน แต่ก็ต้องจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ เพื่อไม่ให้ทำตัวเป็นเยี่ยงอย่าง ว่าเมื่อกระทำผิดแล้วไม่ถูกจับกุมใครก็สามารถก่อเหตุได้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในครั้งนี้