มองความคิดคนอื่น สู่การมองดูตัวเรา

จำนวนผู้เข้าชม

คนเราต่างที่ต่างถิ่น ต่างสิ่งแวดล้อม การจะมีความคิดให้เหมือนกันนั้นก็คงยาก เพราะทุกคนย่อมเอาสิ่งที่ตนได้รับรู้มา มาเป็นประสบการณ์ สำหรับผู้ที่อยากจะรู้เรื่องอะไรนั้นขอแนะนำว่าควรจะสอบถามผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือหาอ่านหนังสือที่มีข้อมูลด้านนั้นๆ เราก็จะได้ความรู้ แต่หากเราไปถามคนที่ไม่รู้ ไม่เคยได้สัมผัส ไม่มีประสบการณ์ด้านนั้น ก็อย่าได้เสียเวลาไปถามเลย เพราะคำตอบที่เขาจะตอบออกมานั้นก็จะเป็นแค่ความคิดเห็นของเขา ซึ่งไม่ใช่ความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นๆเลย และคำตอบนั้นอาจจะทำให้เรานั้นตัดสินใจผิดพลาดได้ ฉะนั้นอย่าไปถามเลย

การที่เราถามอะไรใครไป สิ่งที่เขาตอบย่อมจะแทรกความคิดของคนตอบเข้าไปด้วย ระหว่างที่เขาตอบและได้พูดตามความคิดของเขาก็อย่าได้ขัดจังหวะ เพราะถ้าเราพูดขัดไป  เราคงจะพลาดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นของเขา ซึ่งจะทำให้เราได้ทราบความเป็นตัวตน ทัศนคติของผู้ตอบได้ดีขึ้น และอีกอย่างหนึ่งการตอบคำถามของเขา อาจทำให้เราจะทราบความคิดของเขา ซึ่งอาจจะไม่เหมือนความคิดของเรา ผู้ตอบ ผู้สนทนาคงจะมีมุมมองอีกด้านที่อาจจะเป็นแนวคิดที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานของเราก็เป็นได้

ในกลุ่มสนทนา เราอาจจะได้พบคนหลากหลายอาชีพ หลากหลายความคิด และเคยเจอพรรคพวกคนหนึ่งนั้น เขาเองนั้นถูกอัตตาของเรามาก ระหว่างคุยกันเขามักจะเป็นคนค้านไปทุกเรื่อง มีครั้งหนึ่งเราไปดูฟุตบอลเราก็ทราบผลว่า ฝ่ายแดงชนะ 2 ต่อ 0 แต่เขาก็ค้านว่าฝ่ายเขียวชนะ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปดูการแข่งขัน บางครั้งในการสนทนาเราเองมักจะรักษาไมตรีต่อกันมากกว่าที่จะมาทะเลาะเถียงเอาชนะกัน ก็ปล่อยให้เขานั้นเป็นฝ่ายชนะไป ก็ถือว่าในวงการสนทนา หากไม่มีเขาก็ไม่เกิดความสำราญ ในขณะที่บางคนในกลุ่มแสนจะรำคาญ จึงไม่มาร่วมกลุ่มอีกเลย อยากจะบอกคนนั้นว่า อย่าไปถือโทษโกรธและรำคาญเขาไปเลย ก็เขามีนิสัยกันอย่างนั้นเอง คิดแบบนี้ก็คงไม่เครียดและหนักใจต่อกัน

ความคิดเห็นของคนอื่นที่แสดงออกในการสนทนา ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็น และเหตุผลในแง่ใด มารยาทอันดีงามอย่างหนึ่งที่พึงปฏิบัติ ในระหว่างการร่วมฟังการได้สนทนาฟังข้อคิดเห็นคนอื่น ก็คือไม่ดูหมิ่นดูแคลน หรือมองความคิดเห็นของเขานั้นในแง่ร้าย หรือคิดว่าความคิดเห็นของเขานั้นไม่ถูกต้อง และไม่ดีเท่ากับความคิดเห็นของตน

การมองความคิดเห็นของผู้อื่นในแง่ดี เป็นการแสดงความเป็นผู้มีจิตใจดีเข้าใจคนอื่น และแสดงการเป็นผู้รู้จักให้อภัย

การมองความคิดเห็นของคนอื่นในด้านดี เป็นการสร้างนิสัยอันดีงามให้แก่ตน นำการชนะจิตใจบุคคลอื่นมาสู่ผู้ปฏิบัติการ เคนเน็ธ เอ็มกู๊ด เขียนไว้ว่า จงหยุดสักนาทีหนึ่ง เพื่อเปรียบเทียบว่าท่านเป็นผู้เอาใจใส่อย่างแท้จริงต่อเรื่องของตัวท่าน มากน้อยกว่าการเอาใจใส่ต่อเรื่องของคนอื่นอย่างไรบ้าง? ท่านจะพบความจริงว่าทุกคนในโลกใบนี้ต่างเอาใจใส่เรื่องของตนเองทั้งนั้น

การเปลี่ยนใจเปลี่ยนความนึกคิด และต้องการเปลี่ยนความคิดเห็นของคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง ถ้าใช้วิธีการอันหยาบกระด้างแล้วก็มีทางที่จะก่อให้เกิดมีศัตรูได้เท่านั้น และเหตุไฉนจึงไม่เลือกวิธีที่แนบเนียนละมุนละไมมองความคิดเห็นของคนอื่นในแง่ดี ที่อาจไม่ตรงกับเราก็อาจจะได้อะไรดี ๆ ที่ใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้