จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้นำเรื่องการแก้ไขกฎหมายพ.ร.บ.ยาเสพติดเข้าที่ประชุม
ครม. เมื่อวันที่ 4 ส.ค.63 ที่ผ่านมา
ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุข เสนอเป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับเดิมที่เคยใช้เมื่อปี
2562 ซึ่งกฎหมายฉบับที่แก้ไขมีสาระสำคัญคือ
กำหนดให้ผู้ป่วยที่ ได้รับการรับรองจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือหมอชาวบ้าน
ผู้ประกอบกิจการเกี่ยวกับการผลิตด้านเกษตรกรรมและเกษตรกรที่ดำเนินการผลิตภายใต้ความร่วมมือกับผู้รับอนุญาตผลิตซึ่งยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร และบุคคลอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษกำหนด
สามารถได้รับใบอนุญาตให้ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย
หรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 หรือกัญชาได้
ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาการเข้าถึงการรักษาพยาบาลของประชาชนที่ต้องการใช้กัญชาเพื่อรักษาโรค
และปัญหาการพัฒนาองค์ความรู้และต่อยอดกัญชาทางการแพทย์
รวมทั้งยังกำหนดเกี่ยวกับกระบวนการเก็บรักษาและทำลายยาเสพติดให้โทษของกลาง
โดยกำหนดให้ กรณีที่มีการยึด หรือริบยาเสพติดให้โทษ เมื่อได้มีการตรวจชนิดและปริมาณแล้วว่าเป็นยาเสพติดให้โทษ
ให้กระทรวงสาธารณสุข หรือผู้ที่กระทรวงสาธารณสุขมอบหมาย
สามารถทำลายหรือนำยาเสพติดดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการเก็บรักษายาเสพติดของกลางไว้เป็นเวลานาน
ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณและสถานที่เก็บรักษา ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับหลักการ
ร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... แล้ว
ลานนาโพสต์ได้สอบถามความเห็น
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เกี่ยวกับการเสนอร่าง
พ.ร.บ.ยาเสพติด ฉบับใหม่ดังกล่าว
ซึ่งนายประพัฒน์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นบุคคลหนึ่งที่ผลักดันแนวคิดต่างๆเหล่านี้
และสนับสนุนที่จะมีการแก้ไข
พ.ร.บ.ยาเสพติด ขอบคุณที่กระทรวงสาธารณสุขได้ฟังเสียงของประชาชนและให้ความสำคัญในเรื่องนี้
รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากจะพัฒนาแวดวงกัญชา
ทั้งในวงการแพทย์ วงการเศรษฐกิจ ก็คงจะเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งประเทศไทยเหมาะมากในการปลูก จากที่ตนได้ปลูกนำร่องที่
อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง พบว่าต้นแข็งแรง ใช้สรรพคุณทางยาได้อย่างดี ถ้ากฎหมายฉบับใหม่ผ่าน อย่างน้อย ประชาชนไทยที่เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่
ก็จะมีทางเลือกในการรักษาตัวเองมากขึ้น เช่น คนเป็นโรคไมเกรน นอนไม่หลับ
แทนที่จะใช้ยาเคมี สามารถใช้กัญชาแทนได้
คนที่เป็นเบาหวาน โรคป่วยติดเตียงก็ช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด
กินได้นอนหลับได้ คุณภาพชีวิตก็อาจจะดีขึ้นได้
ส่วนสรรพคุณทางยาที่จะรักษาโรคต่างๆได้
มีการวิจัยมากมายซึ่งทางการแพทย์เองน่าจะมีการศึกษาในเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
นายประพัฒน์
กล่าวอีกว่า การเข้า ครม.ครั้งนี้ เป็นเพียงการเริ่มต้นแก้ไข ทำให้สามารถเดินหน้าต่อไป
ซึ่งขั้นตอนยังคงมีอีกมาก เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสนหลงเคลิ้มไป จึงฝากเตือนว่าอย่าเพิ่งใจร้อนไปปลูกกัญชาในตอนนี้
เพราะการปลูกกัญชายังคงผิดกฎหมายอยู่ ต้องไปจนกว่าพ.ร.บ.ยาเสพติด
ฉบับใหม่จะประกาศอย่างชัดเจนอีกครั้ง ขอให้อดใจรอกันไปก่อนและศึกษากฎหมายอย่างละเอียด
ทั้งนี้ อยากขอส่งข่าวไปยัง รมว.สาธารณสุข
ขอความกรุณาให้ประสานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดพิจารณาให้เร็วขึ้น
แฟ้มภาพ |
แฟ้มภาพ |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น