วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

0.4 ปะทะ 4.0


จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

สะใจ ดีใจ สมน้ำหน้า กลุ่มผู้ชุมนุมที่ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ที่ถูกตำรวจสลายการชุมนุมด้วยการฉีดน้ำผสมสี และสารเคมี มีบางคนอธิบายว่า ผู้ชุมนุมฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตำรวจได้ทำตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักแล้ว ดังนั้น จึงมีความชอบธรรมที่รัฐจะจัดการใช้วิธีการเช่นนั้นกับเด็กๆในที่ชุมนุม

 

พวกเขาบอกว่า นี่คือหลักการสากล ในการสลายการชุมนุม ถูกต้องแล้วที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ถูกต้องแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งสัญญาณว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่ต้องจัดการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

ผู้ใหญ่ที่คิดเช่นนี้ ครูบาอาจารย์ที่คิดเช่นนี้ ล้วนไร้ความเมตตา ไร้จิตสำนึก สติปัญญามืดบอด ไม่รับรู้ ไม่เข้าใจ ไม่เคารพสิทธิและความหลากหลายของผู้คนในสังคมประชาธิปไตย และไม่รู้ว่าอีกไม่นานคนรุ่นเราก็จะล้มหายตายจากไป สังคมนี้ ประเทศนี้ คืออนาคตของพวกเขา

 

เราคิดว่าเด็กถูกหลอก เด็กโง่ เด็กรู้ไม่เท่าทันความจริง แม้กระทั่งเรื่องการใช้ความรุนแรง เราก็อ้างว่า มันเป็นหลักสากล เจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนแล้ว เพื่อระงับยับยั้งสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า “สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง” !?

 

พวกเขามีรถฉีดน้ำผสมสารเคมีแรงดันสูง มีตำรวจ มีกระบอง มีอำนาจรัฐหนุนหลัง เด็กมีมือที่ว่างเปล่า ร้ายแรงที่สุดสำหรับพวกเขา คือมือที่ชูสามนิ้ว

 

การใช้เครื่องฉีดน้ำกับประชาชน  จาก Guidance on Less-Lethal Weapons ของ 0HCHR  ระบุว่า ต้องใช้ในสถานการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อยอย่างร้ายแรง ซึ่งมีแนวโน้มนำไปสู่การเสียชีวิต หรือการบาดเจ็บอย่างร้ายแรงเท่านั้น

 

การชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ การแสดงพลังเพื่อการต่อสู้ทางความคิดในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ และจะสลายตัวไปอีกไม่นาน ย่อมมิใช่สถานการณ์ที่มีความร้ายแรงอย่างยิ่ง อันจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และบาดเจ็บอย่างแน่นอน

 

ผู้ใหญ่ที่ขาดเมตตา ครูบาอาจารย์ที่ขาดเมตตา จะหวังให้เด็กเคารพ และเชื่อฟังคงเป็นเรื่องยากยิ่งนัก

     

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์