เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายบุกเข้าตรวจสอบ กลุ่มทุนเข้ารุกป่าสงวนแห่งชาติ จับจองพื้นที่ป่าตัดต้นไม้ทำลายป่าเหี้ยน 9 จุด เสียหายกว่า 100 ไร่ จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 คน พบมีการก่อสร้างที่พักมั่นคงแข็งแรงบางแห่งปักรั้วรวดหนามแน่นหนา
วันที่
26 พฤศจิกายน 2563
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 3 (ลำปาง)
โดยการอำนวยการสั่งการของนายสมศักดิ์
สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักฯ นายเรวัตร เวียงทอง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ลำปาง
นายเกษม คำมา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า
นำโดยนายสินธพ เรือนมั่น หน.ฝ่ายป้องกันและรักษาป่า เจ้าหน้าที่
ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ห้างฉัตร ลป.5
(แม่ยาว) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4
บก.ปทส.จังหวัดลำปาง สายที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.33 เชียงใหม่ ตร.สภ.เมืองยาว และฝ่ายปกครอง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กว่า 50 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาม
ท้องที่เกิดเหตุบ้านแม่ยามเหนือ ม.8 ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร
จ.ลำปาง
จุดดังกล่าวห่างจากหมู่บ้านประมาณ
3-4 กิโลเมตร เข้าไปเชิงเขาเกือบถึงเขตติดต่อระหว่างป่าสงวนแห่งชาติและป่าอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าตรวจสอบพร้อมๆกันทั้ง 9
จุดพบว่า พื้นทีเกิดเหตุทั้ง 9 แห่งมีการล้อมรั้วรวดหนาม
มีประตูเข้าออก มีการปลูกสร้าง สิ่งปลูกสร้างต่างๆเช่นบ้านพัก กระท่อม โรงจอดรถ
ค่อนข้างมั่นคงแข็งแรง รวมไปถึงโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ต่างๆกระจายทั่วพื้นที่
นอกจากนี้ยังพบมีการปลูกพืชสวน และมีการแผ้วถางป่า
ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้ห้วงห้ามเช่นประดู่ป่า ไม้พลวง
หรือทางเหนือต้นตองตึง ถูกโค้นล้มเหลือแต่ต่อนับร้อยต้น ส่วนไม้ท่อนที่ถูกตัด
พบว่ามีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ไปเกือบทั้งหมด
เหลือเพียงไม่กี่สิบท่อนทางเจ้าหน้าทีได้กระจายกำลังตรวจสอบและตรวจยึดไม้ที่เหลือทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวชาย
2 คน ได้ในพื้นที่ที่รุกป่า ทราบว่าเป็นชาวบ้านในพื้นที่
ได้เข้ามาจับจองพื้นที่และแผ้วถางป่าก่อนจะสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่อพักอาศัยและทำสวนทำไร่
ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ส่งร้อยเวร สอบสวน สภ.เมืองยาว อ.หางฉัตร จ.ลำปาง
ดำเนินคดีหลายข้อหาทันที ทั้ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.รุกป่าสงวนแห่งชาติ พ.ร.บ.ครอบครองไม้หวงห้าม
โดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนการเข้าตรวจสอบในพื้นที่ครั้งนี้
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบว่า มีขบวนการกลุ่มทุนว่าจ้างให้ชาวบ้านเข้าไป
รุกป่าจับจองพื้นที่ โดยมีการล้อมรั้วรวดหนาม จากนั้นค่อยขยับขยายรุกป่าไปเรื่อยๆทีละไม่มาก
แปลงละ 5-10 ไร่ และตัดไม้ขนาดใหญ่ก่อนทยอยขนย้ายออกจากป่า จากนั้นก็จะมีการซื้อขายพื้นที่ที่รุกป่าในราคาถูกทางเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่หาข่าวและจับตาดูพฤติกรรมมานาน
2 วัน
แต่คาดว่ากลุ่มทุนได้ทราบความเคลื่อนไหวไม่เข้ามาในพื้นที่
แต่พบเพียงชาวบ้านที่เข้าไปรุกป่า
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวและดำเนินคดีทันที ทั้งนี้จะได้มีการสืบสวนหาไม้ท่อนที่ถูกชักลากออกไปว่าขณะนี้ไปอยู่ที่ไหนและจะเร่งติดตามหากลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
ซึ่งถือว่าเป็นการตัดไม้ทำลายป่าที่ทำเป็นขบวนการอีกครั้ง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น