วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

กลโกงอยู่รอบตัว ย้อนรอย 4 ปี คดีโกงแชร์-แชร์ลูกโซ่ลำปาง ยอดรวมกว่า 82 ล้านบาท

 



ข่าวโด่งดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ คือคดีของ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” นักธุรกิจพันล้าน ที่มีตำแหน่งเป็น ประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ซึ่งได้กลายเป็นหนึ่งได้ผู้ร่วมขบวนการฉ้อโกง โดยการเปิดบริษัทเครือข่ายและหลอกนักลงทุนเข้าร่วมในหลายรูปแบบ โดยอ้างว่าได้ผลตอนแทนที่สูง ช่วงแรกจ่ายค่าตอบแทนตามปกติ แต่ช่วงหลังเริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่จ่ายผลตอบแทน และไม่คืนเงินลงทุนให้ โดยมีผู้เสียหายกว่า 1,000 คน มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

           

ย้อนดูคดีโกงที่ จ.ลำปาง ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีการฉ้อโกง และโกงแชร์เฉลี่ยปีละ 1 คดี รวมประมาณ 5 คดี โดยยอดเงินสูงสุดอยู่ที่ 40 ล้านบาท 


            

-ลงทุนขายเห็นหลินจือ 26 ล้าน

ย้อนไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ประชาชนชาวลำปาง ผู้เสียหายจากการถูกชักชวนให้ร่วมลงทุนเล่นแชร์ลูกโซ่เห็ดหลินจือ วงเงินเสียหายกว่า 26 ล้านบาท และได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง  โดยมีผู้เสียหายกว่า 110 คน และหนึ่งในผู้เสียหายเป็นถึงทหารยศ พ.อ. ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเล่นแชร์ดังกล่าวสูญเงินไปกว่า 5 ล้านบาท เมื่อ

สำหรับพฤติการณ์ของการชักชวน และจูงใจประชาชนนั้น จะบอกว่า เมื่อร่วมลงทุน 10,000 บาท ในการซื้อขายสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือผง จำนวน 25 กล่อง จะได้รับ 1 หุ้น และมีผลตอบแทนปันผล 30 วัน ทันที โดย1 หุ้นจะจ่ายเงินปันผล 1,000 บาทต่อเดือน เพื่อร่วมลงทุน นอกจากนี้ ยังชวนเชื่อว่าจะมีสวัสดิการในการช่วยซื้อบ้าน ซื้อรถ ในลักษณะมอบเงินดาวน์ให้ ตลอดจนยังเปิดให้ร่วมหุ้นในโครงการกองทุนรวม เพื่อระดมทุนซื้อที่ดิน และสร้างอาคารในการตั้งบริษัทเล่นแชร์ลูกโซ่ดังกล่าวใน จ.ลำปาง ซึ่งจะทำให้มีรายได้ระยะยาว และได้รับสวัสดิการต่างๆ

 

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ผู้เสียหายก็ได้รับเงินปันผลตามที่ลงทุนไป โดยยอดเงิน 1,000 บาทต่อหุ้น ก็จะจ่ายเป็นเงินสด 800 บาท ที่เหลือออกมาเป็นคูปอง เพื่อใช้ซื้อสินค้าต่อ และยังถูกหักค่าโอนเงินอีก 25 บาท ฉะนั้นจริงๆ 1 หุ้น จะได้รับเงินสดแค่ 775 บาท ต่อมาในภายหลังชายผู้ที่เข้ามาชักชวน พร้อมทีมงานก็ติดต่อไม่ได้ และหนีหายไป หอบเงินที่ลงทุนหนีไปกว่า 26 ล้านบาท จนทำให้ผู้เสียหายชาวลำปางเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง


-เท้าแชร์ชิ่งสูญ 7 ล้าน

รายที่ 2 เท้าแชร์เป็นหญิงสาวอายุ 25 ปี หรือ น.ส.นริสรา(นามสมมุติ) ชาวบ้าน ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง   เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 60  ที่ ได้มีผู้เสียหายรวมตัวกันประมาณ 10 คน เข้าแจ้งความสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.นริสรา  หลังถูกโกงเงินวงแชร์ไปหลายรายรวมผู้เสียหายทั่วประเทศ ร่วม 100 คน แล้ว วงเงินกว่า 7 ล้านบาท  โดยกลุ่มผู้เสียหายมีทั้งเด็กนักศึกษาไปจนถึงวัยทำงาน

 

พฤติการณ์ทราบว่าเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม 60  น.ส.นริสรา ได้เพิ่มเพื่อนเข้ามาทางเฟซบุ๊ก ผู้เสียหายจึงกดรับและเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นเท้าแชร์ก็เลยสนใจ และติดตามศึกษาวิธีการเล่นแชร์อยู่ประมาณ 1 เดือน เห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ มีลูกค้าให้เครดิตมาอย่างต่อเนื่องว่ามีการส่งยอดตลอด จึงลองเข้าไปร่วมเล่นวงแชร์ก่อน และวงกินดอกตามมา โดยในเฟซบุ๊กมีการตั้งกลุ่ม แชร์กินดอก วงแชร์ บ้านป๋อมแป๋ม ในวงมีสมาชิกอยู่ประมาณ 2,000 คน  ซึ่งลักษณะการเล่นคือ มีการตั้งเรท 1,000 ได้รับต้นคืนพร้อมดอกรวม 1,100 บาท  เท่ากับเงินต้น 1,000 บาท  ได้ดอกเบี้ย 100 บาท  ราย 3 วัน ราย 5 วัน ราย 10 วัน ตามที่ท้าวแชร์กำหนด  จึงลงเล่นน้อยๆก่อน โดยนำเงินเก็บจากการค้าขายออนไลน์มาที่สะสมไว้มาใช้ และก็ได้เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยตรงเวลานัดทุกครั้ง เลยไปชวนแม่มาเล่นด้วย เริ่มลงเงินเพิ่มขึ้น และเห็นว่าได้คืนจริงก็เพิ่มวงเงินขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้รวมยอดที่ค้างอยู่ที่ท้าวทั้งวงกินดอกและวงแชร์ 2.2 แสนบาท  ซึ่งเท้าแชร์ได้ชิ่งหนีไปแล้ว 

 

สวนผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง หญิง อายุ 25 ปี ทำอาชีพธุรการ บอกว่าได้ติดตามทางเฟซบุ๊ก น.ส.นริสราเช่นกัน จึงสนใจดูความเคลื่อนไหวอยู่พักหนึ่ง ก็ตัดสินใจเล่น ด้วยความที่อยากได้เงินเพิ่มขึ้นเพราะตนเองมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เนื่องจากเตรียมเงินใช้ไว้ตอนคลอดลูก สามีก็ให้เงินมาเก็บไว้ทุกเดือน จึงอยากเอาไปต่อยอด เห็นว่าดอกเบี้ยดีจึงตัดสินใจเล่น แต่ลงที่จะไม่มาก ก็โดนโกงไปประมาณ 2 หมื่นบาท

 

อีกรายหนึ่งเป็นหญิง อายุ 26 ปี  เล่าว่า ตนเองเสียเงินไป 50,000 บาท  ตอนแรกคิดว่าจะนำเอาสร้อยทองไปขายเพื่อมาลงวงแชร์ นำมาต่อยอดได้กำไร แต่มาโดนเท้าแชร์โกงไปเสียก่อน ถ้าไม่อย่างนั้นตนเองก็อาจจะเสียเงินเสียทองไปมากกว่านี้ก็ได้

 

ยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนที่ น.ส.นริสราจะหายตัวไป ก็ไม่บ่งบอกสัญญาณอะไร แต่ที่เห็นผิดสังเกตคือ มีการเปิดวงกินดอกให้ดอกเบียนล่อตาล่อใจ เหมือนต้องการเงินเยอะๆ พอถึงมือรับเงินก็เริ่มอ้างว่าส่งเอกสารไม่ครบ ต้องรอเอกสารก่อน และขอเลื่อนส่งยอดไปอีกวันหนึ่ง กระทั่งวันที่ 15 ต.ค.ก็มีคนในกลุ่มบอกว่า ทักแชทไปหาแต่ น.ส.นริสราไม่อ่านและไม่ตอบแชทกลับมา  และมีลูกแชร์วีดีโอคอลไปหา แต่เจอแฟน น.ส.นริสรารับสาย และบอกว่าทิ้งจดหมายไว้ เลยถ่ายรูปและส่งต่อๆกัน จนวันที่ 17 ต.ค.มีนัดว่าจะส่งยอดเวลา 22.00 น. แต่พอถึงเวลาก็ปิดเฟซบุ๊กหายไปทันที ไม่สามารถติดต่อได้

สำหรับกลุ่มนี้ มีผู้เสียหายทั้งหมด 101 คน รวมยอดประมาณ 7 ล้านบาทเศษ 

 

-เท้าแชร์โดนโกงเอง ลูกแชร์ซวยด้วย

รายที่ 3 เป็นเท้าแชร์กลุ่มย่อยที่ถูกเท้าแชร์กลุ่มใหญ่โกงเงินไปหลังจากร่วมลงทุนไป 1.3 ล้านบาท ทำให้วงแชร์ล่ม ลูกแชร์ที่ร่วมวงอยู่ก็ซวยไปด้วยไม่ได้เงินคืน  ในเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.อนุสรา  ราษฎร ต.วังเหนือ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง  ว่าตนเองถูกเท้าแชร์บ้านปังปอนด์ โกงเงินของตนเองไป 1,315,000 บาท   ซึ่งได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.วังเหนือ แล้วเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 60 ที่ผ่านมา

 

โดยน.ส.ปังปอนด์ เท้าแชร์ เป็นชาวบ้าน หมู่ 1 ต.เกาะคา อ.เกาะคา จ.ลำปาง  เปิดบ้านกินดอก และวงแชร์ ชื่อ “แชร์บ้านปังปอนด์”  ช่วงเดือน พฤษภาคม 60 น.ส.อนุสรา ได้รู้จักกับเท้าแชร์ปังปอนด์ทางเฟซบุ๊ค ซึ่งเปิดบ้านกินดอก โดยช่วงเวลาที่ผ่านมา มีคนลงเล่นและรู้จักกันเยอะมาก ส่วนมากจะอยู่ต่างจังหวัด จึงได้สนใจและลองลงเงินเล่นแชร์ดู  ช่วงแรกๆ ก็ลงครั้งละ 500-1,000 บาท และได้เงินคืนทุกครั้ง  พอเห็นว่าได้จริงก็ลงเงินกันมากขึ้น จนถึงหลักหมื่น หลักแสน หลักล้านบาท เพราะแต่ละคนก็หวังผลประโยชน์ บางคนก็แนะนำเพื่อนมาลงเล่นด้วย

 

ผ่านไปได้เดือนเดียวเท้าแชร์ได้เงียบไป  เมื่อส่งข้อความไปทางเฟซบุ๊กและไลน์ ก็ไม่อ่าน ไม่ตอบกลับ และเริ่ม บล็อกเฟซบุ๊กสมาชิกบางคน ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าต้องโดนโกงแน่ๆ  จากนั้นได้มีการรวมกลุ่มกันตามหาตัวเท้าแชร์คนนี้ โดยการจ้างทีมงานหนึ่ง มาตามหาตัว แต่ก็ตามไม่เจอ ระหว่างนั้นได้มีการรวมกลุ่มกันไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่แนะนำมาว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.เกาะคา เพราะเป็นบ้านของเท้าแชร์ จึงไปติดต่อที่ สภ.เกาะคา ตำรวจท่านหนึ่งแนะนำให้กลับไปแจ้งความท้องที่ของแต่ละคน  ซึ่งมีคนแจ้งความไว้เป็นบางส่วน  ซึ่งตนเองก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว  รวมค่าเสียหายของคนที่โดนโกงเงินจากเท้าแชร์รายนี้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท

 

น.ส.อนุสรา กล่าวว่า ทุกวันนี้ลำบากมาก ต้องหาเงินมาใช้หนี้ที่ถูกโกงไป ต้องเอาทั้งบ้านทั้งรถต้องกู้หนี้ยืมสินหาเงินมา งานอะไรมีให้ทำก็ต้องทำหมดเพื่อจะหาเงินทุกบาททุกสตางค์มาใช้หนี้ เคยท้อถอยไม่รู้จะหาทางออกอย่างไร โชคดีที่ครอบครัวเข้าใจและคอยให้กำลังใจมาถึงทุกวันนี้  ตอนนี้เพียงแต่อยากต้องการตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้เท่านั้น

 


-ครูสาวเปิดวงแชร์ก่อนชักดาบ3ล้าน

รายที่ เกิดเหตุเมื่อช่วงเดือนมกราคม 62  ได้มีผู้เสียหาย 11 คนรวมตัว แจ้งความจับครูสาว อ.งาว เปิดเล่นวงแชร์แต่วงเกิดล่ม ไม่มีเงินจ่ายคืน  ยอดรวมกว่า 3 ล้านบาท  

           

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากผู้เสียหาย ชาว อ.งาว รายหนึ่ง เล่าว่า ตนเองและเพื่อนรวม 11 คน ถูกเท้าแชร์โกงเงินทำให้ได้รับความเสียหาย รายละตั้งแต่ 20,000 บาทไปถึง 600,000 บาท  รวมค่าความเสียหายประมาณ 3 ล้านบาท  โดยผู้เสียหายทั้งหมด 11 คน ได้เข้าแจ้งความกับนางเบญทิพย์  เป็นเท้าแชร์วงดังกล่าว และเป็นครูชำนาญการอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.งาว  

           

หลังจากได้รับการชักชวนให้เข้าไปเล่นวงแชร์กับนางเบญทิพย์  และได้ตัดสินใจร่วมวงเนื่องจากเห็นว่าเป็นครู มีความน่าเชื่อถือ และยังมีคนร่วมเล่นในวงนี้จำนวนมาก แต่ต่อมาวงแชร์ดังกล่าวได้ล้มลง โดยเท้าแชร์อ้างว่าไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะสำรองจ่ายให้กับสมาชิกคนอื่น แต่เมื่อสอบถามข้อเท็จจริงต่างๆแล้ว ทราบว่าเรื่องที่เท้าแชร์อ้างนั้นไม่เป็นความจริง  จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง ได้รวมตัวกันมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน  

            

-ตามหาบุษบาสาวหน้าตาดี

ต่อมาช่วงเดือนกันยายน 62 เป็นรายที่ 5 ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีการโกงแชร์ โดยเมื่อวันที่ 28 กันยายน 62 ได้มีผู้เสียหายทั้งชายและหญิงกว่า 20 ราย ต่างทยอยหอบหลักฐานเอกสารมาพบผกก.สภ.เมืองลำปาง และ ร้อยเวรสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับ น.ส.บุษบา หญิงสาวหน้าตาดี อายุ 33 ปี ชาวอำเภอห้างฉัตร จ.ลำปาง  หลังถูก น.ส.บุษบา  ชักชวนให้นำเงินมาลงทุน ให้ค่าตอบแทนสูง

 

ผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้ร่วมลงทุนไปทั้งหมดจำนวน 6 แสนบาท ส่วนเงินปันผลจะได้มากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่ น.ส.บุษบาตั้งเอาไว้  ด้วยการที่มีเงินปันผลสูงมากจึงมีหลายคนแห่นำเงินมาร่วมลงทุน ช่วงหลังเริ่มจ่ายเงินปันผลช้าไม่ตรงที่กำหนด จนสมาชิกเริ่มไม่ไว้ใจและขอเงินที่ลงทุนคืน 

 

แต่ น.ส.บุษบาก็อ้างว่าถูกคนที่ตนเองเอาเงินไปลงทุนด้วยกว่า 50 ล้านบาท โกงเงินไปเช่นกัน            

ผู้เสียหายอีกราย ชาวจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า รู้จักกับ น.ส.บุษบา เพราะเคยเป็นแม่ค้าออนไลน์ด้วยกัน และถูกชักชวนมาร่วมลงทุน จนสูญเงินไปประมาณ 1 ล้านบาท  เบื้องต้นทราบว่า มีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ  ยอดความเสียหาย 44 ล้านบาท

           


-รวบตัวบุษบา
ตัวการโกง40ล้าน

ต่อมาวันที่ 9 เมษายน 2563 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมกันจับกุมตัวน.ส.บุษบา อายุ 34 ปี ชาว อ.ห้างฉัตร ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ 86/2563 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2563 ฐานความผิด ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ได้ที่บ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

 

เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มาร้องทุกข์ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามช่วยเร่งรัดคดี และขอให้ทำการจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ มูลค่าความเสียหายของคดีรวมแล้วหลายสิบล้าน และมีผู้เสียหาย 100 กว่าราย โดยมีการหลอกให้นำเงินมาลงทุน ช่วงแรกจะให้ผลตอบแทนจำนวนมาก  จึงมีผู้เสียหายหาเงินมาลงทุนเป็นหลักแสนหลักล้านบาท หลังจากนั้นไม่ได้รับผลตอบแทน และเงินต้นคืน

 

ในการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น และหมายจับให้ น.ส.บุษบาดู และยอมรับเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่ได้ให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัว และเดินทางนำไปส่งให้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

นี่คือทั้ง 5 คดีของการโกงแชร์และแชร์ลูกโซ่ที่เกิดขึ้นใน จ.ลำปาง ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่ายังมีอีกหลายเคสที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เนื่องจากอาจจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี แต่มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าหลายล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้เหล่านี้ เกิดขึ้นใกล้ตัวเราได้เสมอ แม้จะมีการจับกุมดำเนินคดี แต่ผู้เสียหายก็ยังไม่ได้รับเงินคืนแม้แต่รายเดียว จนกลายเป็นคดีที่เงียบไปโดยปริยาย

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์