“แก้วโป่งข่าม” เมืองเถิน ลำปาง เล่าขาน”อัญมณี”มีความศักดิ์สิทธิ์

 

ต้องยอมรับว่าสิ่งที่คนไทยใช้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ในยามที่จิตตก หรือต้องเผชิญกับปัญหาความทุกข์กายร้อนใจ นอกจาก “ธรรมะ” แล้ว ก็ยังมีบรรดา ”เครื่องรางของขลัง” นานาชนิดทั้งที่ถูกจัดสร้างขึ้นและที่เกิดจากธรรมชาติ

 

อย่าง “แก้วโป่งข่าม” หรือ “หินโป่งข่าม” ที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นที่กล่าวขานและมีชื่อเสียงมานานหลายสิบปีในยุคร่วมสมัย และนานหลายร้อยปีในยุคอดีตกาล เพียงแต่ชื่อเสียงเหล่านั้น คงอยู่ในวงแคบๆของบรรดาสายมูเตลูหรือสายความเชื่อในเขตภาคเหนือ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม เป็นตำนานแห่งความศักดิ์สิทธิ์ชาวล้านนา การเล่าขานถึงปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์ ยัง...คงสืบเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น จากอดีตจนถึงปัจจุบัน 

 

ก่อนจะกล่าวไปถึงคุณสมบัติพิเศษด้านความศักดิ์สิทธิ์ของ “แก้วโป่งข่าม” เรามาทำความรู้จักกันสักหน่อย “แก้วโป่งข่าม” เป็นแร่ควอรตซ์ชนิดหนึ่งที่มีแร่ซิลิกาปนอยู่ในปริมาณมาก มีลักษณะทางกายภาพเป็นหินผลึกที่บางก้อนสามารถมองทะลุเข้าไปภายในแล้วเห็นเป็นผลึกหรือมีอินทรีย์สารอยู่ภายใน โดย “แก้วโป่งข่าม” ที่พบมีอยู่หลายชื่อเรียกแบ่งตามสีสันและลวดลายทางธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในไทยมีการขุดพบแก้วโป่งข่ามเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 บริเวณดอยโป่งหลวง อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง

 

จากข้อมูลทางธรณีวิทยาระบุว่าบริเวณดังกล่าวเคยมีร่องรอยของลาวาไหลผ่านชั้นหินบนผิวดิน จนเกิดการเคลือบแร่ธาตุเอาไว้ และกลายมาเป็นแก้วโป่งข่าม โดยมีการนำแก้วโป่งข่ามลักษณะต่างๆ นำมาแปรรูปเป็นเครื่องประดับที่มีทั้งแหวน จี้ ต่างหู และกำไลข้อมือ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังนำเอาแก้วโป่งข่ามไปใช้ผลิตเป็นรูปแกะสลักขนาดเล็ก อาทิ พระพุทธรูป ของตกแต่งรูปสัตว์และดอกไม้ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งมีเอกลักษณ์ความแปลกจากความสวยงามของสีสันที่ต่างกันของแก้วโป่งข่าม

 

“แก้วโป่งข่าม” เป็นอัญมณีของไทย เป็นทรัพย์ในดินที่ดูเสมือนกับว่าถูกละลืมไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่คุณค่าของแก้วโป่งข่าม หากไม่รวมความสวยงามที่ดูแปลกตามากกว่าการเป็นเพียงแค่เครื่องประดับอัญมณีที่สวมใส่กันอย่างฉาบฉวยตามแฟชั่นแล้ว ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรม, ประวัติศาสตร์ และตำนานความเชื่อต่างๆ ของล้านนาเป็นมรดกตกทอดให้คนรุ่นหลังได้สืบสาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับตำนานความเชื่อเรื่องแก้วศักดิ์สิทธิ์ของล้านนาโบราณ ซึ่งเป็นแก่นหลักทางความเชื่อที่ได้กล่าวถึงแก้วศักดิ์สิทธิ์ อันมีลักษณะเหมือนกับ “แก้วโป่งข่าม” ว่าสามารถป้องกันเหตุอันตรายต่างๆ ตลอดจนภูตผีปีศาจให้แก่ผู้ที่ครอบครองได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้เกิดโชคลาภ เป็นสิริมงคล ความสุข และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ปัจจุบันแบ่ง “แก้วโป่งข่าม” เอาไว้ 13 ประเภท ซึ่งมีชื่อเรียกและการสื่อความหมายทางความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป โดยการเลือกบริโภคสินค้าขึ้นอยู่กับความชื่นชอบส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

 

แก้วขนเหล็กใส มีลักษณะโปร่งใส ภายในมีเส้นแร่ปรากฎอยู่ มีไว้เพื่อเสริมโชคลาภ ยศและตำแหน่ง แก้วเข้าแก้ว มีไว้เพื่อเสริมความโดดเด่นในเรื่องของอำนาจ ความสำเร็จในการติดต่อค้าขาย และความมีชื่อเสียง แก้วสามกษัตริย์ ช่วยเสริมชะตาบารมีให้แก่ผู้ถือครอง แก้วนางขวัญ ช่วยให้ผู้ที่ครอบครองมีเสน่ห์ต่อคนรอบข้างแก้วทราย มีลักษณะของเม็ดทรายเรียงกัน ช่วยส่งเสริมในเรื่องของเงินทอง โชคลาภ แก้วพิรุณเสน่หา มีลักษณะของเส้นลายจะเป็นริ้วบางๆ เหมือนกับผ้าแพรบางๆ ช่วยส่งเสริมด้านการค้าขายให้ประสบความสำเร็จ

 

แก้วหมอกมุงเมือง เชื่อว่าทำให้เกิดความบริบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง แก้ววิทูรสีน้ำผึ้ง มีสีเหลืองขุ่น ช่วยส่งเสริมทางด้านโชคลาภ แก้วกาบ มีลักษณะเป็นแร่แผ่นบางๆ อยู่ภายใน ช่วยเสริมด้านความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แก้วปวก ลักษณะมองเห็นเป็นต่อมน้ำหรือฟองน้ำอยู่ภายใน ช่วยเสริมในด้านเมตตามหานิยมแก้วแร ส่งผลในการค้ำชูสำหรับผู้ที่ทำธุรกิจค้าขาย แก้วมังคละจุฬามณี เมื่อมองเข้าไปภายในจะจินตนาเห็นเป็นรูปมงคลต่างๆ เช่น องค์พระ ต้นโพธิ์ หรือเจดีย์ ถือเป็นแก้วที่หาพบได้ยากและถือว่ามีค่ามาก และสุดท้าย แก้วโป่งข่ามสีฟ้า เชื่อว่าผู้ใดได้ครอบครองจะทำให้ชีวิตมีความสงบสุข

 

“สายมูเตลู” สามารถเข้ามาชมสินค้า “แก้วโป่งข่าม” ได้ที่ กลุ่มเจียระไนแก้วโป่งข่ามบ้านนาบ้านไร่ อ.เถิน จ.ลำปาง ตั้งอยู่ข้างกับวัดนาบ้านไร่ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธรูปแก้วโป่งข่าม” ที่เชื่อว่าหากขอพรสิ่งใดมักสมหวังตามที่ขอ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมความเชื่อของชาวบ้านบริเวณนั้น อีกด้วย

 

หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานลำปาง เบอร์โทร.054-222214 ทุกวันจันทร์-ศุกร์

กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง