วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2566

รวบอดีตรองนายก อบต. รุกป่าสงวน 14 ไร่ อ้างขอนุญาติเข้าใช้พื้นที่ถูกต้องแล้ว แต่กลับพบว่ารุกล้ำป่าเข้าไปเกินกว่าที่แจ้งขอนุญาติ สุดท้ายยอมจำนนหลักฐานถูกดำเนินคดีทันที

 



ที่ทำการศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง  เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) โดยการอำนวยการชอง พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส.  สนธิกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า DNP ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่  เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย ท้ายหมู่บ้าน บ้านสบเติ๋น หมู่  2 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

จากกรณีได้รับการรองเรียนว่า มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่น และอาจเป็นผู้มีอิทธิพล เข้าไปจับจองแผ้วถางป่าจนภูเขาเกือบจะกลายเป็นเขาหัวโล้นไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีการสร้างที่พักและรุกป่าเข้าไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย





หลังจากวางแผนชี้แจงขั้นตอนต่างๆ แล้วจึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่โดยทันที ซึ่งเส้นทางเข้าไปยังเป้าหมายค่อนข้างกันดาร ติดกับลำน้ำแม่จาง โดยเมื่อไปถึงกำลังเจ้าหน้าที่ได้กระจายปิดล้อมทั้งทางเข้าด้านหน้าและทางออกด้านหลัง  พบคนงานอยู่ภายในพื้นที่ดังกล่าวหลายคน  เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวได้ 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ทั้งหมดให้การว่าเจ้าของที่ว่าจ้างให้มาถางหญ้าและรดน้ำต้นไม้เท่านั้น 

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทั้ง 3 คน ติดต่อเจ้าของที่ ให้นำเอกสารหลักฐานต่างๆมาพบเจ้าหน้าที่  ใช้เวลาไม่นานเจ้าของพื้นที่ดังกล่าวทราบชื่อคือ นายประยูร บุญเรือง อายุ 48 ปี ราษฎร ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ และเคยเป็นรองนายก อบต.มาก่อน ได้เดินทางมาถึง โดยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี  นำพาชี้จุดที่ครอบครองพื้นที่ทั้งหมด โดยอ้างว่า ตนเองซื้อที่ดังกล่าวมาจากชาวบ้านในพื้นที่และได้เข้าร่วมโครงการรัฐโครงการหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านเข้ามาทำกินในพื้นที่ ก่อนที่จะมีชาวบ้านเข้ามาขอแบ่งพื้นที่ที่ตนเองไปทำโครงการเพิ่ม ตนเองจึงได้ขยายพื้นที่ออกไปอีก จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเอกสารการร้องเรียน และพยานภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลัง เมื่อปี 2545 พบว่ายังเป็นพื้นที่ป่าบริเวณกว้าง  แต่ได้ถูกเข้ามาบุกรุกแผ้วถางและก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างเมื่อปี 2563 และภาพถ่ายปัจจุบันถูกบุกรุกแผ้วถางจากภาพถ่ายทางอากาศ มากกว่า 40 ไร่ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวเจ้าของที่ ไปทำการบันทึกสอบปากคำที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ อ.แม่เมาะ   ส่วนชาวบ้านที่มารับจ้างลดน้ำต้นไม้และถางหญ้าเจ้าหน้าที่ได้กันให้เป็นพยาน



จากการตรวจสอบเทียบพิกัดแผนที่ดาวเทียม พบรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย จริง 14 ไร่เศษ มูลค่าเสียภายทางภาครัฐ ประมาณ 1 ล้านบาท นายบุญเรืองให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484

-มาตรา 54 ประกอบ 72  ตรี ฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต

- มาตรา 55 ฐานผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น

พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ  พ.ศ. 2507 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ จังหวัดลำปาง ตามขั้นตอนกฎหมายทันที









Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์