วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2566

เต้ มงคลกิตติ์ เผยนโยบาย 10 ด้าน พรรคไทยศรีวิไลย์ "ทุกเสียงของท่าน จะดังในสภา"

 



         1) นโยบายด้านปราบปรามทุจริต  คำสั่งใดของ คสช.ที่ยกเลิกการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินข้าราชการ  เราจะยกเลิกทั้งหมดเมื่อเราได้อำนาจ ข้าราชการระดับกลาง-สูงทุกคนจะต้องยื่นชี้แจงบัญชีทรัพย์สินทั้งหมด  เร่งรัดการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองและข้าราชการ ที่ถูกร้องเรียนว่าร่ำรวยผิดปกติให้ตัดสินคดีรวดเร็วเด็ดขาด ส่วนเรื่องการสอบบรรจุแต่งตั้งข้าราชการ ปัจจุบันมีการทุจริตเกือบทุกหน่วยงาน มี 2 รูป แบบ คือ โกงข้อสอบ และการใช้สิทธิพิเศษของการเป็นปลัดกระทรวง อธิบดี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แต่งตั้งลูกหลานของตัวเองเข้าไปด้วยคะแนนพิเศษ เราจะยกเลิกระบบนี้ทั้งหมด  ซึ่งต่อไปประชาชนลูกหลานคนยากคนจนทุกคนมีสิทธิ์สอบบรรจุเข้ารับราชการด้วยคะแนนความสามารถของตัวเอง

           2) นโยบายแนวทางการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร  ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ อาทิ ข้าว  ปาร์ม อ้อย ลำใย ยางพารา มะพร้าว มันสำปะหลัง ฯลฯ ใช้วิธีออกกฎหมาย กำหนดราคาสินค้าเกษตรขายในประเทศต่อ พ่อค้าคนกลาง-โรงสี กำหนดต้นทุนสินค้าเกษตร  เช่น ถ้าต้นทุนปลูกข้าว 5,800 บาท/ตัน เราเพิ่มราคาขายบวกกำไร 30-35% ให้เกษตรกรมีกำไร เราไม่ใช้เงินรัฐไปซื้อหรือประกัน เราจะออกกฎหมายให้พ่อค้าคนกลางรับซื้อ พร้อมห้ามนำสินค้าเกษตรเข้ามาแข่งขันกับสินค้าเกษตรกรในประเทศและห้ามรับซื้อในราคาต่ำกว่ากฏหมายกำหนดซื้อต่ำกว่าก็ติดคุก รวมทั้งกำหนดราคาขายต่อผู้บริโภคในประเทศในราคาที่พ่อค้าคนกลางกำไรไม่เกิน 20% จะไม่กระทบต่อประชาชน  เรื่องปุ๋ย  ออกกฏหมายให้ใช้ปุ๋ยที่ผลิตขึ้นมาเองหรือปุ๋ยอินทรีย์ ส่วนปุ๋ยเคมี ยกเลิก ป้องกันประชาชนป่วยเป็นมะเร็ง  จัดการบริหารหนี้เกษตรกรทั้งหมด แต่ไม่ใช่การยกเลิกหนี้ ใช้วิธีจัดการเรื่องตัดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ หรือ ซื้อหนี้ ตั้ง ธนาคารเกษตรมหาชนขึ้นมา ซื้อหนี้เดิมมา  กำหนดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเกษตรกรไม่เกิน 3-3.5% คงที่  เพื่อให้เกษตรกรเดินได้ 

        3)  นโยบายด้านพลังงาน   ออกพันธบัตร 7 แสนล้านบาท ให้กับพี่น้องประชาชนซื้อหุ้นคืนจาก ปตท 33 %  เดิมกำไร 33% แบ่งเอกชน ครานี้เข้ารัฐเต็มๆกว่าปีละ 65,000 ล้านบาท เราก็นำกำไรดังกล่าวมาเป็นดอกเบี้ยพันธบัตรและ ส่วนลดภาษีน้ำมัน โดยไม่เก็บภาษีสรรพสามิต-กองทุนน้ำมัน ภาษีอื่นๆ พี่น้องประชาชนไม่ต้องใช้น้ำมันที่แพงกว่ามาเลเซีย  ซึ่งเราทำได้ในราคา 19 บาท/ลิตร ทำให้ ต้นทุนการขนส่ง-ค่าครองชีพประชาชนต่ำ จากข้าวแกงจาก 30 บาท จะเหลือ 20 บาท เงินประชาชนก็เหลือมากขึ้น เรียกว่า ลดรายจ่ายประชาชน ส่วนการแปรรูป ปตท. ปี 2544 ที่ประเมินราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เราจะดำเนินคดีกับ ครม-ข้าราชการประจำ-เอกชนผู้ซื้อหุ้นชุดแรก

        4 ) นโยบายด้านการสาธารณสุข ส่งเสริมใช้สมุนไพรรักษาโรคและขึ้นตำรับยาแผนโบราณโดยง่าย เพื่อ  รักษามะเร็ง เบาหวาน ความดัน หัวใจ รูคิเมีย หรือ HIV ลดเลิกนำเข้ายาที่ผลต่อตับไต ควบคุมราคาซื้อยาต่างประเทศ บรรจุข้าราชการเพิ่มด้านสาธารณสุข อาทิ แพทย์ พยาบาล อื่นๆ ออกระเบียบบังคับการออกกำลังของประชาชน ควบคุมผลิตภัณฑ์อาหาร ที่มีผลต่อ หัวใจ มะเร็ง

        5 )  นโยบายคืนความเป็นธรรมให้ธุรกิจชุมชน หรือ SME  หรือ เรียกว่าโชว์ห่วย ตรากฎหมายห้ามทุนใหญ่ทำการแข่งขันกับธุรกิจชุมชน อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น มินิสโตร์ ทุนใหญ่เป็นเจ้าของได้ไม่เกิน 30 % อีก 70 % ต้องขายให้กับพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าของ 

         6 ) นโยบายด้านรัฐวิสาหกิจ  เราไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ  มุ่งเน้นคานอำนาจราคากับเอกชน ลดเงินเดือนฝ่ายบริหาร +บอร์ด จัดจ้าง ประหยัด  คุ้มค่า ได้ประสิทธิภาพสูงสุด(รัดเข็มขัด)

         7) นโยบาย ด้านการรักษาความมั่นคงภายในและการทหาร  ปราบปรามขบวนการทำลายสถาบัน ทั้งในและนอกประเทศ   ตามจับนักโทษหนีคดีทุจริต  ประหารชีวิตคดีทุจริตที่เสียหายมาก ประหารชีวิตคดีข่มขืนฆ่า  ข่มขืนอย่างเดียวตัดอวัยวะเพศ บำรุงขวัญทหารดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อพร้อมรบ  การค้าขายระหว่างประเทศจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งคานอำนาจ  ประชาชนก็ปลอดภัย  พัฒนากองทัพไทยสู่กองทัพโลกให้ติด 1 ใน 10 ภายใน 4 ปี

           8)นโยบาย ด้านปรับปรุงระบบยุติธรรมให้เท่าเทียม -แก้กฏหมายที่ล้าสมัยเอาเปรียบประชาชน ปรับ พรบ.รื้อฟื้นคดีอาญาใหม่ พ.ศ.2526 เปิดช่องให้มีการใช้หลักฐานเก่าแต่พิสูจน์ครั้งใหม่ด้วยเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความยุติธรรมในคดีที่ไม่ยุติธรรม  แก้ไข พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ยกเลิก ส่วนแบ่งค่าปรับจราจร 47.5% แก้ไขค่าปรับจราจรลดลงเหมาะสมกับค่าครองชีพของประชาชน ปรับปรุงอัตราความเร็วรถยนต์ อื่นๆ เหมาะกับ สภาพถนน สมรรถนะรถ การจ่ายภาษี การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจจะใช้คะแนนทางวิทยาศาตร์ 100% ไม่เอาระบบหาเงินให้นาย เพิ่มงบประมาณด้านสอบสวน สืบสวน พิสูจน์หลักฐาน ให้ตำรวจไม่เดือดร้อน จัดระบบยุติธรรม ให้ ผู้กล่าวหา ผู้ถูกกล่าวหา แก้ต่างได้โดยไม่ต้องใช้เงิน พัฒนาอัยการดูสำนวนและพื้นที่จริงให้ละเอียดก่อนสั่งฟ้อง ผู้พิพากษาต้องมีความรู้เฉพาะด้านในการตัดสินคดี

             9) นโยบายด้านการศึกษา กำจัดแป๊ะเจี๊ยะเข้าเรียน ลดเงินเดือนพนักงานมหาวิทยาลัย เฉพาะ คณบดี รองคณบดี รองอธิการบดี อธิการบดี ในมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ(ม.นอกระบบ)  ให้ใกล้เคียงกับอัตราราชการ เพื่อนำไปลดค่าเทอมนักศึกษาในระดับชั้น ป.ตรี-โท-เอก  นักเรียนตั้งแต่ อนุบาล-ประถม-มัธยม-ปวช   จะต้องไม่เสียค่าบำรุงการศึกษา เพื่อเป็นการลดรายจ่ายผู้ปกครอง  หนี้สินครู ตั้ง"ธนาคารครูแห่งประเทศไทย" โดยรัฐเข้ามาเป็นหุ้นส่วน 25% อีก 75% ให้ประชาชนไทย-นักลงทุนร่วมเป็นเจ้าของ เจรจาลดดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ แล้วซื้อหนี้คืนจาก ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต่างๆ กว่า 9 แสนราย ปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ย 2.5-3.5% คงที่  ส่วนข้าราชการส่วนอื่นๆ ใช้ในแนวทางเดียวกัน

          10) นโยบายใช้หนี้รัฐ สร้างสวัสดิการประชาชน คือ  ยกเลิกหมายเลขธนบัตรเดิม เปลี่ยนใหม่ นำเงินที่พิมพ์ใหม่ชดเชยเงินที่ทุจริต ชี้แจงไม่ได้ นำเงินส่วนนี้ใช้หนี้รัฐ อีกส่วนทำสวัสดิการประชาชน  ตั้งแต่เกิดยันตายให้ประชาชน 66 ล้านคน

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์