วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2566

“เกรียงเดช” แอดมินเปิดรับเรื่องราวร้องทุกข์ เป็นกระบอกเสียงให้แก่ชาวลำปางซิตี้ สมาชิกกลุ่มใหญ่กว่า 3 แสนคน

 



          หากเอ่ยถึงชื่อ “เกรียงเดช สุทธภักติ” หรือโกเบิ้ม ชาวลำปางจะต้องรู้จักกันในนาม แอดมินกลุ่มใหญ่กลุ่มดัง “Lampang City” ที่มีสมาชิกอยู่ในกลุ่มกว่า 3 แสนคน  ซึ่ง เกรียงเดช  ได้ผ่านการทำงานด้านต่างๆมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรม  รองนายก อบจ.ลำปาง

จากที่ได้ผันตัวเข้าสู่แอดมินกลุ่มลำปางซิตี้ที่  หลายครั้งที่เกรียงเดช แอดมินดังได้ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานราชการต่างๆ แม้จะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นแล้วก็ตาม แต่ล่าสุดเขาก็ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเมืองพิชัย และยังคงทำหน้าที่แอดมินกลุ่มที่สะท้อนปัญหาต่างๆของ จ.ลำปางอย่างต่อเนื่อง    

ขณะเดียวกันก็มีชาวลำปางซิตี้ กล่าวชื่นชมถึงการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ของนายเกรียงเดช ทำให้เรื่องราวการแก้ไขปัญหาต่างๆ ขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว   และเป็นบุคคลสาธารณะที่ควรได้รับการยกย่องอย่างมาก

ล่าสุด ได้เคลื่อนไหวทางออนไลน์สอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสัญญาณไฟแดงแบบนับถอยหลัง หลังจากที่เคยประสานไปทางกรมทางหลวง เมื่อปี59  ซึ่งทางกรมทางหลวงได้มีหนังสือตอบกลับชี้แจงกรณีดังกล่าวมาแล้ว  ระบุว่า  กรมทางหลวงยังไม่อนุญาตให้ติดตั้งระบบดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้  และจากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเพื่อศึกษาถึงความเหมาะสมในการติดตั้งระบบ พบว่า  ช่วงที่ไฟเขียวกำลังจะหมด เป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถชนกันกลางแยก  หากผู้ขับขี่จะเร่งเครื่องเพื่อให้ทันก่อนจะติดไฟแดง   และจะเร่งความเร็วช่วงออกตัวก่อนที่ไฟแดงจะเปลี่ยนเป็นไฟเขียว  

นอกจากนั้นยังได้อิงข้อมูลจากการศึกษาในต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน  ไต้หวัน และแคนนาดา  ว่าเมื่อมีการติดตั้งระบบนับถอยหลังแล้วเกิดอุบัติเหตุรถชนมากขึ้นกว่ากว่าแยกที่ไม่ได้ติดตั้ง

อย่างไรก็ตาม บทบาทของแอดมินกลุ่มลำปางซิตี้ ของเกรียงเดช ก็ถือว่ามีความสำคัญมากอีกบทบาทหนึ่ง เมื่อประชาชนไม่รู้ว่าจะหวังพึ่งใคร  จึงมักจะเรียกหาแอดมิน  

ถึงขั้นที่ว่า  น้ำไม่ไหล ไฟดับ  ฝนตก รถติด  ถนนพัง  บอกเกรียงเดช 

ถ้ามีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ขึ้นมาจริงๆ  งานนี้คนชื่อ “เกรียงเดช สุทธภักติ” คงไม่พลาดกับตำแหน่งนี้  หรือตอนนี้จะอวยยศให้เป็น ส.ส.คนที่ 6 ของลำปางก็ยังได้ 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์