ส.ว.รวมตัว เก็บหลักฐานแจ้งความหมิ่นประมาท ถูกคุกคาม บูลี่ตนเองและครอบครัว

 

หลังจากการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566 ในการลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ซึ่งมี ส.ว.เพียง 13 คน ที่โหวตเห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน ส.ว.ที่เหลือ มีการโหวตไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง ทำให้พิธาวืดตำแหน่งนายกฯไปในการโหวตรอบแรก 

 ทำให้เกิดกระแสดราม่า และแห่ติดแฮชแท็กแบนธุรกิจ ส.ว.  รวมไปถึงบุตรหลาน ส.ว.ก็โดนพ่วงไปด้วย

ล่าสุดนาย สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาเตือนบุคคลที่มีพฤติกรรมบูลลี่ตนเองและครอบครัว สว. ว่า ขณะนี้ สว. หลายคนอยู่ ระหว่างรวบรวมหลักฐาน  เพื่อแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นประมาท โดยเฉพาะใน มีการคุกคาม ซึ่งถือว่าเลวร้ายกว่าในอดีต เป็นวิธีการที่สกปรก ชั่วช้า และเลวทราม คนที่เห็นต่างก็เข้าไปบูลลี่เขาหมด ทั้งตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย และครอบครัว

หลังจากร่วมประชุมกันแล้ว สว. ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินคดีทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งทีมกฎหมาย และเบื้องต้นได้ส่งหลักฐานให้ ปอท. แล้วทั้งหมด และจะตรวจสอบทั้งหมดและย้อนหลังไป หากพบว่าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดีทั้งหมด เพราะถือว่าไม่เคารพคนอื่น ใครที่ไม่ทำตามคุณก็ไปตามคุกคามเขาหมด ฉะนั้นต้องดำเนินคดี ประชาธิปไตยของคุณเป็นประเภทไหน เป็นพวกโจราธิปไตยหรือไม่ ที่ผ่านมาตนเคยดำเนินคดีกับคนที่หมิ่นประมาทมาแล้ว

          ตนก็ให้อภัยไปหลายคนแล้ว แต่หลังจากนี้จะไม่ให้อภัยแล้ว ขอเตือนให้หยุดทั้งหมด อย่าคิดว่าหาไม่เจอ ที่ผ่านมาถือว่าตนเป็นบุคคลสาธารณะ แต่จากนี้จะเริ่มนับหนึ่งในการดำเนินคดี เพราะคุณไม่ได้ใช้สิทธิ

“ขณะที่คุณล้ำเลิศประชาธิปไตย แล้วเวลาติดคุกไม่ต้องมาขอโทษนะ เพราะไม่มีปล่อยฟรี ถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทจริงจัง แล้วอย่าลืมนะว่าเป็นนักกฎหมายทั้งนั้น ที่มาสนุกสนาน เล่นๆ กันแบบนี้ ดำเนินคดีหมด ตอนนี้ทุกคนเตรียมหลักฐานไว้หมดแล้ว จะเอาให้เต็มที่ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ต้องออกจากคุกกันเลย ทำ 10 ครั้งก็ 10 กรรม 10 วาระ” นายสมชายกล่าว

ที่มา คมชัดลึก