วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

เทรลเลอร์ข้ามทางกระบะตู้ทึบเบรคไม่ทันชนเต็มลำ ชายคนขับกระบะถูกอัดก็อปปี้เสียชีวิต ผู้โดยสารเจ็บสาหัสอีกราย


เทรลเลอร์บรรทุกยางพารา กำลังขับออกจากหมู่บ้าน ขึ้นถนนหลักข้ามไปยังจุดกลับรถ รถกระบะมาทางตรงพุ่งชนเต็มลำ ดับ 1 สาหัส 1

          เมื่อเวลา 18.20 น.วันที่ 25 ก.ค.66 ร.ต.อ.ไกรสิงห์ วังนัยกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เกาะคา รับแจ้งอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บริเวณจุดกลับรถแยกทางเข้าหมู่บ้านนาแก้วตะวันออก  ถ.พหลโยธิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ จึงประสานกู้ชีพ รพ.เกาะคา เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยเกาะคา สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยเกาะคา งานป้องกัน ทต.นาแก้ว ทต.วังพร้าว และเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ ร่วมกันตรวจสอบ และเคลียร์การจราจร เนื่องจากมีรถติดยาว




          จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะตู้ทึบ สีแดง ทะเบียน ตณ 3872 กรุงเทพฯ จอดอยู่กลางถนน สภาพพังยับ ทั้งเครื่องยนต์หน้ารถ เศษกระจก และน้ำมันเครื่อง กระจายเต็มถนน พบผู้บาดเจ็บสาหัส ติดภายในรถ 2 คน เจ้าหน้ากู้ภัยได้ช่วยกันงัดร่างออกมาได้ รายแรกเป็นหญิง นั่งข้างคนขับ อาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว มีบาดแผลที่ลำคอยาว 10 ซ.ม. จึงรีบนำส่ง รพ.เกาะคาทันที ส่วนอีกรายเป็นชายคนขับรถ ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน เมื่อนำร่างออกมาได้ พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งแพทย์นิติเวช ร่วมชันสูตรพลิกศพ ทราบชื่อต่อมาคือ นายวิชชพันธ์ สรัสยนันทน์ อายุ 56 ปี ชาว จ.กรุงเทพมหานคร  ส่วนผู้บาดเจ็บคือ นางฐิติชญาน์ จงเลิศสอรอกุล ชาว จ.กรุงเทพมหานคร นำส่งรักษาต่อที่ รพ.ลำปาง 




     ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถเทรลเลอร์ 18 ล้อ บรรทุกน้ำยางพาราดิบ ทะเบียน 74-0971 ชลบุรี เคลื่อนย้ายมาจอดอยู่อีกฝั่งถนน เนื่องจากรถจอดขวางการจราจร ทำให้รถติดไม่สามารถผ่านได้ โดยสภาพรถมีร่องรอยการชนที่ล้อรถฝั่งขวา ช่วงกลางค่อนไปทางด้านหลังรถ ซึ่งคนขับรถเป็นชาย รอให้การในที่เกิดเหตุ




           สอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น ทราบว่า รถเทรลเลอร์ได้ไปส่งน้ำยางพาราในหมู่บ้าน และตีรถเปล่าออกมาจากปากทาง ขณะที่กำลังข้ามไปยังจุดกลับรถ จะเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปทาง อ.สบปราบ รถยนต์กระบะที่ขับมาทางตรงมุ่งหน้าไปทาง อ.เกาะคา ได้ชนเข้ากลางลำรถค่อนไปทางท้ายรถที่ยังข้ามมาไม่พ้น จนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนสาเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 




          จากนั้นเจ้าหน้าที่งานป้องกัน ทต.วังพร้าว ได้นำรถน้ำเข้าทำความสะอาดคราบน้ำมันต่างๆที่กระจายบนถนน  เพื่อเปิดเส้นทางให้รถวิ่งได้  ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเปิดเส้นทางได้ตามปกติ 




Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์