วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เอสบี’23 ยกทีมลงพื้นที่เมืองจันท์ มุ่งสร้างต้นแบบการพัฒนายั่งยืนบนแนวคิด Regenerative

 


อีกหนึ่งตัวอย่างดีๆ ที่จะนำมาแบ่งปันในสัปดาห์นี้ สำหรับผู้ที่มีแนวคิดในการพยายามจะฟื้นคืน และสร้างมูลค่าให้กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้น เพื่อฟื้นคืนสมดุลโลก สร้างอนาคตที่ทุกชีวิตทั้งคนและธรรมชาติมีความยั่งยืนร่วมกันได้อย่างแท้จริง นั่นคือ การจัดงานประชุม SB’23 BANGKOK CHANTHABURI ภายใต้แนวคิด “Regenerating Local Food & Future” เมื่อเร็วๆ นี้

 


และในการประชุมครั้งนี้ เปิดพื้นที่ให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักคิดและนักปฏิบัติการและทีมผู้เชี่ยวชาญด้านแนวคิดและการสร้าง Regenerative ระดับโลกอย่าง มาร์ค บัคลีย์ (Marc Buckley) นักคิด และนักปฏิบัติการด้านอาหารและตัวแทนความยั่งยืนจาก UN SDG เจนนี่ แอนเดิร์สสัน (Jenny Andersson) ซีอีโอจาก We Activate The Future, ผู้ร่วมก่อตั้ง The Really Regenerative Centre และ ซานดร้า พิน่า (Sandra Pina) ผู้อำนวยการจาก SB ประเทศสเปน พร้อมด้วย ดร.ศิริกุล เลากัยกุล ผู้อำนวยการจาก SB ประเทศไทย ผู้ริเริ่มนำแนวคิด Regenerative หรือแนวคิดการ ฟื้นคืน

 


ดร.ศิริกุล เลากัยกุล กล่าวว่า เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงให้กับทุกสรรพสิ่งในธรรมชาติที่ต้องดำรงอยู่ด้วยกันอย่างเกื้อกูล และเหตุที่เลือกความสำคัญของธุรกิจอาหารซึ่งเป็นหัวใจหลักของประเทศ เพราะถ้าระบบอาหารมีการเปลี่ยนแปลงและแข็งแรงแล้ว เราจะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนได้ ดังนั้นจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ไปได้ไกลกว่าเดิม

 



ในขณะเดียวกัน มาร์ค บัคลีย์ (Marc Buckley) กล่าวว่า เมื่อคุณได้เข้าใจถึงแนวคิดของการฟื้นสร้างคุณค่าในด้านต่างๆ (regeneration) แล้ว และถ้าพูดเรื่องอาหาร และระบบนิเวศน์ของอาหาร สิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของอาหาร ก็คือ ภาคเกษตรกรรมทั้งการปลูกพืชพันธุ์และการทำฟาร์มต่างๆ Regenerative Agriculture จึงเป็นเรื่องสำคัญ มากๆที่เราทุกคนต้องเข้าใจจริงๆ และจะสามารถลงมือแก้ปัญหาทั้งระบบ การเกษตรเพื่อฟื้นฟู เพื่อสร้างคุณค่าจึงเป็นวิธีการที่ไม่ใช่แค่รักษาสิ่งที่มีอยู่ไม่ให้หมดไป แต่ยังนำสิ่งที่หายไปให้กลับมามีชีวิตที่สมบูรณ์ ผ่านกระบวนการต่างๆ อาทิ การพลิกฟื้นคุณภาพดินที่ถูกทำลายไป การเพิ่มความหลากหลายในผืนดิน การลดภาวะโลกร้อนด้วยการลดคาร์บอนต่างๆ รวมทั้งพัฒนาวงจรการใช้น้ำในการทำการเกษตร เป็นต้น


 

“ผมอยากนำเสนอแนวทางปรับปรุงและแก้ไข ที่เป็นนวัตกรรมที่มีศักยภาพจริงๆ ที่จะช่วยกำหนดอนาคตที่มีมนุษยชาติ รวมถึงโลกของเราจะฟื้นตัวได้จริง ได้ยั่งยืน ผ่านแนวคิดของ Regenerative Agriculture หรือเกษตรกรรมแบบฟื้นฟู ที่ผมกล่าวไปแล้วข้างต้น นอกจากนี้  Regenerative Agriculture จะเป็นส่วนสำคัญมากในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ การกักเก็บคาร์บอนไว้ในดินสามารถช่วยชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และช่วยทำให้สภาพอากาศมีเสถียรภาพมากขึ้นได้ และยังจะสามารถสร้างงาน สนับสนุนเกษตรกรรายย่อย และส่งเสริมความสามารถที่จะฟื้นตัว (Resilient) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลที่ยั่งยืนอีกด้วย” มาร์ค บัคลีย์ กล่าว

 

   เช่นเดียวกับ เจนนี่ แอนเดิร์สสัน (Jenny Andersson) กล่าวในหัวข้อ “The Regenerative Future : Real Business Cases” ไว้ว่า วันนี้เราทำลายเมืองของเราโดยไม่รู้ตัว ผ่านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เน้นปริมาณ เพื่อรายได้ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว การพัฒนาศักยภาพของเมือง ของสถานที่ คือ การพัฒนาสถานที่ พัฒนาเมืองผ่านการฟื้นฟู การหาหัวใจของสถานที่ ของเมืองที่โดนทำลายไปให้ฟื้นคืนชีวิตใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่มีพลวัต (Dynamic) และช่วยกำหนดรูปแบบให้ เมือง สถานที่ ให้ประเทศไทยหรือชุมชนท้องถิ่นดีขึ้นได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน เราจะเรียนรู้ร่วมกันถึงหลักการพื้นฐาน ที่มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่ที่ไม่เพียงแต่แค่ดำรงชีวิตของตนเองเท่านั้น แต่เพื่อการดำรงของทุกชีวิตรอบๆ อย่างเกื้อกูลเพราะแนวคิด Regenerative Placemaking เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิด และ สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมโดยรอบอย่างสม่ำเสมอตลอดไป

 

   ปิดท้ายที่ ซานดร้า พิน่า (Sandra Pina) กล่าวสรุปว่า ความยั่งยืนเป็นหนี่ง ในเป้าหมาย หลักขององค์กรในการกำหนดกลยุทธ์ การผลิตสินค้า การทำการตลาด และการสื่อสาร แล้วองค์กรจะรู้ได้ อย่างไรว่า เส้นทางที่กำลังดำเนินอยู่นั้นเป็นเส้นทางที่ถูกทางหรือหลงทางทาง SB Worldwide จึงได้ออกแบบเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยธุรกิจ และแบรนด์ในการวัดระดับความยั่งยืนภายในของแบรนด์ ของธุรกิจ ขององค์กร อย่างเจาะลึก ภายใต้ชื่อ SB Brand Transformation RoadmapTM (SB BTR) โดยเครื่องมือนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้นำ ในการสร้างแบรนด์ระดับโลกพัฒนา เพื่อให้องค์กรสามารถประเมินตนเอง ผ่านชุดคำถามออนไลน์ครอบคลุม 5 แกนหลัก ของแบรนด์ที่ยั่งยืนคือ Purpose, Brand Influence, Operations & Supply Chain, Products & Services และ Governance ซึ่งทาง SB Thailand ได้ทำการเปิดตัวทดลองกับ 5 แบรนด์ใหญ่ของประเทศไทยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการให้กับทุกแบรนด์ที่สนใจ ในต้นปี 2567

 


และเพื่อให้การประชุม มิใช่เป็นแค่การพูดคุกันอย่างแลกเปลี่ยนความรู้แต่ไม่มีผลงานที่ยั่งยืน พร้อมกันนี้ SB ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดจันทบุรี จัดงาน Regenerating Local Food & Future เน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง โดยได้เริ่มกระตุ้นให้เกิดความสนใจต่อความอุดมสมบูรณ์ที่กำลังจะหายไปจากระบบอาหาร ผ่านงานเลี้ยงภาคค่ำภายใต้ชื่องานว่า รสจันท์ที่จางหาย (The Lost Recipe) เรียนรู้ผ่านมื้ออาหารค่ำของรสจันท์ที่จางหายภายใต้แนวคิดการกู้คืนสูตรตำหรับอาหารเมืองจันท์ที่แท้จริงให้ฟื้นกลับคืนมา The Regenerative Dinner – The Lost Recipe “Herb - Heritage - Hope” โดยมีนิทรรศการบอกเล่าสิ่งที่จะจายหายของเมืองจันท์ อาทิ ตำรับอาหารจันท์ การทำเสื่อจันทบูร ศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น

 

อุกฤษฏ์ วงษ์ทองสาลี ประธานหอการค้า จันทบุรี กล่าวว่า รสจันท์ที่จางหาย (The Lost Recipe) เป็นกิจกรรมที่เกิดจากการบูรณาการการทำงานร่วมกันที่จะรื้อฟื้นตำรับอาหารพื้นเมืองจันทบูรที่กำลังจางหายให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง และในครั้งนี้ ได้นำ พริกไทยปางถี่ และกระวานจันท์ มาเชิดชูอยู่ในตำรับอาหาร เรามุ่งหวังกันว่ามื้อพิเศษนี้จะให้ทุกคนสัมผัส รู้สึก และสำนึกต่อพลังของถิ่นที่จันทบุรี (Power of Place) ในฐานะของห้องนั่งเล่นของภาคตะวันออก (Living Room of the East)และช่วยกันเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ อันจะนำไปสู่การฟื้นฟูของคนกับธรรมชาติให้อยู่ร่วมกันอย่างที่เคยเป็น และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน

 


นอกจากนี้ ได้เรียนรู้ในห้องเรียนธรรมชาติที่ สุธีร์ ออร์แกนิก ฟาร์ม จันทบุรี โดยจะมีการทำกิจกรรมเวิร์คชอปแบบลงพื้นที่จริง เรียนรู้การนำแนวคิด Regenerative ไปใช้จริงในระบบเกษตร อาหาร และระบบการฟื้นฟูเมือง ที่เป็นการกอบกู้ชีวิตและเสน่ห์ที่แท้จริงของเมืองจันท์ให้กลับมาอีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของวัตถุดิบหลักของจันทบุรี คือ พริกไทยและกระวาน พืชสำคัญของประเทศไทย ที่อุดมคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ใน 2 หัวข้อสำคัญ คือ การกู้คืนระบบอาหารของพริกไทยจันท์และลูกกระวานจันท์ โดย มาร์ค บัคลีย์ (Marc Buckley) และ การเรียนรู้เรื่องการฟื้นคืนอนาคตของจันทบุรีผ่านการท่องเที่ยว หรือ Regenerative Placemaking โดยเจนนี่ แอนเดิร์สสัน (Jenny Andersson)

กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์