เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 29 พ.ย.66 ศูนย์วิทยุ 191 จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชน บริเวณจุดกลับรถแยกเข้าชุมชนก่วมเหนือ (หน้าโตโยต้าชัวร์) ถนนพหลโยธิน ขาเข้าเมืองลำปาง ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรีบประสานร้อยเวรสอบสวน สภ.เขลางค์นคร กู้ชีพ รพ.ลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบนายแพทย์ขจร
วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง (เสื้อน้ำเงิน)นายแพทย์นพรัตน์
วัชรขจรกุล รองนายแพทย์ฯ (เสื้อสีส้ม) ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนครลำปาง
กู้ชีพ รพ.ลำปาง และกู้ชีพ รพ.เขลางค์นครกำลังช่วยเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชายไม่ทราบชื่อ นอนไม่รู้สึกตัว มีแผลฉีกใต้คาง 10-15 ซม.
มีแผลฉีกขาดบริเวณขาทั้งสองข้างและใบหน้าจำนวนหลายแผล โดยเจ้าหน้าที่กูภัยทำการ
CPR ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ก่อนจะนำขึ้นรถกู้ชีพส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง
นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก
2
ราย เป็นชายไม่ทราบชื่อเช่นกัน
มีอาการถลอกฟกช้ำตามร่างกาย หมดสติปลุกตื่น จำเหตุการณ์ไม่ได้ มีแผลฉีกขาดใต้คาง
5-6 ซม. เท้าขวาผิดรูป อีกรายเป็นหญิง อาการถลอกฟกช้ำตามร่างกาย
แผลฉีกขาดบริเวณหางคิ้วซ้าย 4 ซม. มีเลือดออกในตา
แผลฉีกใต้คาง 2 ซม. จุกแน่นหน้าอก ทราบชื่อ นางพานี อายุ 61 ปี
ชาวบ้านชุมชนนาก่วมเหนือ ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง
และมีเด็ก 2 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อาการปลอดภัยดี
เจ้าหน้าที่จึงนำทั้งหมดส่งรักษาที่โรงพยาบาล
สำหรับเหตุการณ์เบื้องต้น
ทราบว่า นางพานี ได้พาเด็ก 2 คน นั่งรถยนต์เก๋งยี่ห้ออิซูซุ
สวิฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 4ขญ 9662
กรุงเทพมหานคร ขับออกมาจากซอยชุมชนนาก่วมเหนือ
และข้ามทางไปยังจุดกลับรถ
ระหว่างนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กฌ 94
ลำปาง ขับขี่มาด้วยกัน 2 คน ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับ ได้เกิดพุ่งชนเข้ากับรถยนต์เก๋งอย่างจัง
โดยมีร่องรอยการชนบริเวณประตูด้านข้างคนขับพังเสียหาย
ส่วนรถจักรยานยนต์สภาพพังเสียหายไปทั้งคัน
ส่งผลให้ชายที่มากับรถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัส และหญิงคนขับรถเก๋งบาดเจ็บดังกล่าว ซึ่งทางร้อยเวรสอบสวน สภ.เขลางค์นคร ได้ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ
เพื่อหาสาเหตุต่อไป
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ผู้บาดเจ็บสาหัสเป็นชาย 1 ราย ได้เสียชีวิตลงแล้วที่ รพ.ลำปาง ทราบชื่อคือ นายณัฐพงษ์ สมตัว หรือปาล์ม นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคลำปาง
Cr. ภาพและคลิป กู้ภัยสว่างนครลำปาง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น