“อธิภูมิ” ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรม เผยเหตุเซรามิกไทยสู้จีนไม่ได้ นำเข้าจนทะลักเฉลี่ย 9 บาทต่อกิโลกรัม ทำเซรามิกล้นตลาดในประเทศ

 

จากกรณีนายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาลำปาง ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันสินค้าเซรามิกจากประเทศจีน เข้ามาตีตลาดเซรามิกลำปาง เรียกว่าการ Dumping ราคา   ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงงานเซรามิกขนาดกลางและขนาดเล็กได้รับผลกระทบโดยตรง  และเริ่มชะลอตัวหยุดการผลิตไป

ในเรื่องนี้ นายอธิภูมิ กำธรวรรินทร์ ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดลำปาง  โพสเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็นดังกล่าว ว่า เซรามิกลำปางย่ำแย่ ผลมาจากการทุ่มตลาดของจีนทำชามไก่เหมือนลำปางขายใบละ 5 บาท มีความคลาดเคลื่อนค่อนข้างมากทีเดียว พร้อมกับให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับชามตราไก่ และปัญหาที่ทางโรงงานเซรามิกประสบในปัจจุบัน

    นายอธิภูมิ ได้กล่าวถึงลายไก่ลำปางว่า เดิมไม่ใช่ของลำปาง แต่มีที่มาจากประเทศจีนซึ่งชาวจีนที่มาตั้งรกรากในลำปางได้นำลายไก่จากจีนมาผลิตที่ลำปางด้วย เพราะลำปางมีแหล่งดินขาวที่สามารถผลิตเป็นเซรามิกได้ใกล้เคียงกับจีน   ไม่ว่าชามไก่ของจีนในสมัยก่อนหรือชามไก่ของลำปางในสมัยก่อนจะเขียนลายด้วยมือ แต่ในปัจจุบันการผลิตชามไก่ของจีนจะใช้รูปลอกเซรามิกแทนการเขียนลาย จึงมีความเหมือนของลวดลายไก่ทุกใบ แต่ชามไก่ของลำปางในปัจจุบันยังนิยมเขียนลายด้วยมือเหมือนเดิม ที่ทุกใบมีความแตกต่างกัน

สำหรับเรื่องชามไก่จีนใบละ 5 บาท ผมคิดว่าเป็นเรื่องเอาแพะกับแกะมาผสมกัน แล้วมองว่าเหมือนกัน แต่ในข้อเท็จจริง ชามใบละ 5 บาทเป็นสินค้าที่มีตำหนิมาก เน้นขายถูกและไม่มีลวดลายอะไร หากมีตำหนิน้อยจะขายแพงขึ้นและการโฆษณาว่าเซรามิกใบละ 5 บาทเพื่อผลในการดึงดูดลูกค้าเข้าร้านมากกว่าจะขายใบละ 5 บาทอย่างจริงจัง        

          ผมอยู่กับเซรามิกลำปางมาเกือบ 30 ปี เห็นความเปลี่ยนแปลงมาตลอด และเห็นปัญหาของเซรามิกลำปางมาตลอด ความเป็นจริงของเซรามิกลำปางคือยิ่งขายยิ่งถูก ยิ่งผลิตคุณภาพยิ่งต่ำ ด้วยสองเหตุผลหลักคือ วัตถุดิบต้นน้ำและต้นทุนผลิตเราสู้จีนไม่ได้   และผู้ผลิตในลำปางแข่งขันกันเองทั้งแข่งขันด้านราคาและแข่งขันในการลดต้นทุนการผลิตทั้งที่ต้นทุนการผลิตของไทยสูงมากอยู่แล้ว  อาจจะมีบางส่วนที่สินค้าจีนไม่ได้คุณภาพในเรื่องของสารพิษที่มีจากรูปลอกบนเคลือบอุณหภูมิต่ำ แต่ไม่ได้มีสารพิษทุกชิ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องตรวจสอบผลิตภัณฑ์

นายอธิภูมิให้ข้อมูลอีว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีการนำเข้าเซรามิกจากจีนมากกว่า 3,000 ตัน ในราคาเฉลี่ย 8.96 บาทต่อกิโลกรัม ราคาที่แจ้ง 8.96 บาทต่อกิโลกรัมเป็นราคาสำแดงขณะนำเข้า ซึ่งข้อเท็จจริงราคาต้องสูงกว่านี้  นั่นหมายความว่าข้อเท็จจริงมีการนำเข้าจากจีนมากกว่าที่แสดง แต่ไม่มีการลงบันทึกตามพิธีการศุลกากร ประเมินนำเข้ามามากกว่านี้ 2-3 เท่าของที่สำแดงตามตาราง  นั่นแปลว่าเซรามิกจากจีนเข้ามาท่วมตลาดและเข้ามาแข่งขันกับผู้ประกอบการในประเทศอย่างหนัก จึงข้อเป็นข้อเท็จจริงในเบื้องต้นที่ทำให้เซรามิกที่ผลิตในประเทศสู้จีนไม่ได้