“พิชิต ชื่นบาน” ผู้เป็นเหตุให้ “เศรษฐา” พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้สิ้นสุดลง เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังว่านายเศรษฐา รู้พฤติกรรมของนายพิชิต ชื่นบาน แต่ยังเสนอแต่งตั้งให้เป็นรมต.ประจำสำนักฯ แสดงว่านายเศรษฐา ไม่มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม   ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ 

หลายคนอาจจำนายพิชิต ชื่นบาน ไม่ได้จึงมาย้อนประว้ติให้ทราบกันอีกครั้ง

พิชิต ชื่นบาน  จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระดับปริญญาโท นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขากฎหมายมหาชน

เนติบัณฑิตไทย สมัยที่ 34 สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา จบปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ทำงานเป็นทนายความและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย โดยเฉพาะการเป็นหัวหน้าทีมทนายความให้กับครอบครัวชินวัตร นับตั้งแต่ที่พรรคไทยรักไทยถูกทำรัฐประหาร เมื่อปี พ.ศ. 2549 โดยพิชิตรับหน้าที่เป็นทนายว่าความให้ ทักษิณ ชินวัตร ในการต่อสู้คดีที่ดินรัชดาฯ เมื่อปี พ.ศ. 2551    

และในการว่าความครั้งนั้นก็ทำให้พิชิตเปลี่ยนสถานะจากทนายความไปสู่จำเลยในคดีติดสินบนศาล เนื่องจากเขาได้นำเงินสด 2 ล้านบาท ใส่ถุงขนม หิ้วไปมอบให้เจ้าหน้าที่ธุรการศาล ในระหว่างการพิจารณาคดีที่ดินรัชดาฯ ของศาลฎีกาคดีแผนกอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ผลในครั้งนั้น ทำให้ศาลสั่งจำคุกพิชิต 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล อีกทั้งทางสภาทนายความยังมีมติลงโทษพิชิตขั้นหนักที่สุด โดยการถอดชื่อเขาออกจากทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ทำให้พิชิตไม่สามารถทำหน้าที่ทนายความได้เป็นระยะเวลากว่า 5 ปี และได้รับฉายาว่าทนายถุงขนม

และในรัฐบาลชุดของ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้มีชื่อของ “พิชิต ชื่นบาน” ปรากฎในตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  และได้กลายเป็นข่าวใหญ่สะเทือนแวดวงการเมืองอีกครั้ง  

คดีนี้ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดเดิม 40 คน ได้ยื่นคำร้องผ่านประธานวุฒิสภา ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ กรณีนำความกราบบังคมทูลเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ

เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน ในความผิดฐานละเมิดศาล เป็นบุคคลที่กระทำการอันไม่ซื่อสัตย์สุจริต และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

จนกระทั่งศาลได้มีมติให้ นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว