เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 เวลา 14.00 น.ที่ท่าอากาศยานลำปาง นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มอบหมายให้นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการซ้อมแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานลำปางเต็มรูปแบบ (Full-Scale Exercise) กรณีอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง ตามแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานลำปาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีคณะทำงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัติงาน รวมถึงความพร้อมในการวางแผนสั่งการ ตลอดจนขั้นตอนการปฏิบัติตามแผนฉุกเฉิน ที่มีการกำหนดไว้อย่างถูกต้อง
การซ้อมแผนฉุกเฉินท่าอากาศยานลำปางเต็มรูปแบบ
(Full-Scale
Exercise) กรณีอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งในสถานการณ์สมมุติ ได้จำลองเหตุการณ์ หอควบคุมการจราจรทางอากาศได้รับแจ้งจากนักบิน “อากาศยานแบบ ATR72 -
600 สายการบินโกล์แอร์จากท่าอากาศยานอันดามัน ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 44 คน จะขอลงจอดฉุกเฉินเนื่องจากเครื่องยนต์ที่
1 เกิดขัดข้อง (ควันและประกายไฟ) และระบบฐานล้อหลัก(MainGear) ไม่ทำงาน ขอทำการร่อนลงทางวิ่งด้าน 18
ต่อมาได้เกิดเพลิงลุกไหม้เครื่องยนต์ที่
1
และลื่นไถลออกนอกทางวิ่งด้านทิศตะวันตก มีผู้โดยสารบาดเจ็บจำนวนมาก
เป็นผู้บาดเจ็บวิกฤต 8 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 26 ราย จึงนำรถน้ำดับเพลิงเข้าระงับเหตุ พร้อมรถพยาบาลและรถกู้ชีพในพื้นที่
เข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลลำปาง จนระงับเหตุได้ ภารกิจคลี่คลายและยกเลิกสถานการณ์
สำหรับการซ้อมแผนครั้งนี้
ถือเป็นโอกาสที่หน่วยงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องในจังหวัดลำปางได้มีส่วนร่วมในการฝึกซ้อม ตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เพื่อสร้างความคุ้นเคยในการสั่งการ การเข้าควบคุม
และการแก้ไขสถานการณ์ที่รวดเร็วและถูกต้อง ทั้งยังเป็นการทดสอบ ขีดความสามารถ
ของทรัพยากรในด้านต่าง ๆ ของท่าอากาศยาน และส่วนงานต่างๆในจังหวัดลำปาง
เพื่อให้เกิดการบูรณาการในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
ที่จะมาใช้บริการท่าอากาศยานลำปาง
ซึ่งการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินของสนามบินเต็มรูปแบบ
จะต้องดำเนินการอย่างน้อย 1 ครั้ง ทุกรอบระยะเวลา 2 ปี
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร และผู้ที่มาใช้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมเสมือนจริงในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนสั่งการ
โดยมีการปฏิบัติตามขั้นตอนตามแผนฉุกเฉินที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง
โดยไม่มีอันตรายเกิดขึ้นในระหว่างการฝึกซ้อมแต่อย่างใด
ถือเป็นการยกระดับความพร้อมการทำงานในภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น