เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำวังล้นตลิ่ง หลังจาก 2 เขื่อนใหญ่ ระดับน้ำความจุเกือบเต็มพิกัดแล้ว จึงเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อน อาจส่งผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำ

 

เช้าวันที่ 2 กันยายน 2567  เวลา 05.30 น. ระดับน้ำในแม่น้ำวังที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ แม่น้ำวัง ที่ W.1C สะพานเสตุวารี ชุมชนท่านางลอย ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง พบว่าบริเวณถนนเรียบแม่น้ำวังเส้นดังกล่าว ระดับน้ำวังเกือบจะล้นตลิ่งขึ้นมาแล้ว อีกประมาณ 20- 30 เซนติเมตร และมีบางจุดที่อยู่ต่ำกว่าได้ล้นมานิดหน่อยยังไม่ส่งผลกระทบแต่อย่างใด 

ซึ่งบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่มีการเตรียมการย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงกันบ้างแล้ว ซึ่งหากน้ำล้นตลิ่งก็ยังไม่ส่งผลกระทบเอ่อท่วมเข้าบ้านเรือน แต่ก็มีการเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยจุดนี้การติดตั้งจุดวัดระดับน้ำ สัญญาณเตือนภัยหากระดับน้ำถึงจุดวิกฤติที่ต้องอพยพจะมีสัญญาณแจ้งเตือน และมีการแจ้งเตือนระดับน้ำที่สูงสุดของแต่ละปี เพื่อให้ชาวบ้านในพื้นที่นำมาเปรียบเทียบเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ

          ทั้งนี้ หลังจากที่ช่วงค่ำวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้ออกประกาศขอให้งานป้องกันเทศบาลนครลำปาง และประชาชนที่มีบ้านเรือนติดแม่น้ำวังในจุดที่มักเกิดน้ำเอท่วมประจำให้ เตรียมความพร้อม 100 % เนื่องจากมีฝนตกลงบริเวณอำเภอวังเหนือ และอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เหนือเขื่อนกิ่วคอหมาและกิ่วลมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความจุน้ำในเขื่อนกิ่วคอหมาเกิน 90%  และ เกิน 70% ในเขื่อนกิ่วลม

          ทางชลประทานจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลม 116 ลบม./ วินาที ตั้งแต่เวลา 06.00 น.ในเช้าวันที่ 31 สิงหาคม 2567 และจะระบายเพิ่มขึ้นเป็น 150 ไม่เกิน 200 ลบม./ วินาที ตั้งแต่เวลา 22.00 น. อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในเขตเทศบาลนครสูงขึ้นกว่าปัจจุบันประมาณ 80 - 150 เซนติเมตร ตั้งแต่เวลา 24.00 น.

จนถึงเช้าวันนี้ ประเมินเบื้องต้นว่าจะมีผลกระทบกับชุมชนในเขตตำบลเวียงเหนือ(ทางเลียบแม่น้ำวังบริเวณพระแก้ว ท่านางลอย ท่ามะโอ ฯลฯ) ส่วนบริเวณตำบลหัวเวียง สวนดอก สบตุ๋ย และกาดกองต้า จะยังไม่มีผลกระทบ แต่ขอให้เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำหลากไว้ ล่าสุดสถานการณ์ยังอยู่ระดับที่ปกติเนื่องจากฝนหยุดตกแล้วและลำน้ำลห้วยสาขาแม่น้ำวังไม่มีไหลเพิ่มเติมทำให้บรรยากาศทั่วไปยังปกติในขณะนี้