ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง บุกจับบุหรี่ไฟฟ้า รวบผู้ต้องหา 2 ราย พบเคยถูกจับมาแล้วอยู่ระหว่างดำเนินคดี แต่ยังไม่เข็ดกลับมาขายอีก

 

วันที่ 10 ส.ค.67 เวลา 16.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเมืองลำปาง ได้มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำปาง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำปาง บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านทุ่งโค้ง หมู่ที่ 3 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จ. ลำปาง ตามหมายค้นของศาลจังหวัดลำปาง

          สืบเนื่องจาก มีผู้ร้องเรียนว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวได้แอบลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้กลุ่มเยาวชนและวัยรุ่น จังหวัดลำปาง จึงได้มอบหมายให้พนักงานฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนกระทั่งได้พยานหลักฐานครบถ้วน จึงนำเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อขออนุมัติในการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดลำปางเพื่อขอออกหมายค้นร้านดังกล่าว

จากการตรวจค้น พบบุหรี่ไฟฟ้า ชนิดใช้แล้วทิ้ง จำนวน 42 ชิ้น  และหัวพอร์ต (น้ำยาสำหรับใช้กับตัวเครื่อง) จำนวน 60 ชิ้น  รวมของกลางทั้งสิ้น 102 ชิ้น  วางอยู่ภายในช่องลับในห้องน้ำ ซึ่งได้ทำไว้สำหรับซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้าโดยเฉพาะ

พร้อมกันนี้ ได้จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย (ซึ่งมีผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย เคยถูกจับกุมในข้อหาลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและคดียังอยู่ในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวน) ซึ่งแสดงตัวว่าเป็นผู้จำหน่ายและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว และให้การเบื้องต้นยอมรับว่าตนได้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยได้สั่งบุหรี่ไฟฟ้าผ่านทางเพจเฟซบุ๊คจากร้านค้าในจังหวัดเชียงใหม่ และให้ส่งบุหรี่ไฟฟ้าให้ผ่านทางไปรษณีย์  โดยเตรียมไว้ให้ลูกค้าทั่วไปและกลุ่มเยาวชน โดยสามารถสั่งซื้อทางกลุ่มไลน์ " VMC KS " ซึ่งเป็นกลุ่มไลน์เฉพาะลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้และมารับของได้ที่บ้านหลังดังกล่าว

จากนั้นพนักงานฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำปาง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา  3 ข้อ คือ  1.ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/ 2558 ลงวันที่ 28 มกราคม 2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดังนั้น ผู้ใดขายหรือให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาเติม มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า มีความผิดตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่า ของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุ และพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าบุหรี่ไฟฟ้านั้น,ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 244 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลอาจสั่งริบของนั้นก็ได้ ไม่ว่าจะมีผู้ถูกลงโทษตามคำพิพากษาหรือไม่

 3.ครอบครองหรือรับไว้ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้า อันเป็นสินค้าห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักรอันจะมีความผิดฐาน ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง ตาม มาตรา 246 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ

และได้แจ้งสิทธิฯ ให้ผู้ต้องหาทราบ หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาทำบันทึกจับกุมที่กลุ่มงานความมั่นคง ศาลากลางจังหวัด และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป