วันที่ 2 ก.ย. 67 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 1 แจ้งเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-7 ก.ย. 67
ช่วง
2 - 7 ก.ย.67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมฝน)
ที่พัดปกคลุม ทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น
ร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณเหนือตอนล่าง ภาคกลางและภาคอีสานตอนล่าง
และมียังมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคอีสานตอนล่างภายใต้ร่องมรสุม จึงทำให้มีการกระจายของฝนเพิ่มขึ้นในบริเวณใกล้ร่องมรสุมและด้านรับมรสุม
โดย
มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นได้หลายพื้นที่ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง
ภาคอีสานตอนกลางและตอนล่าง ภาคกลาง (รวม กทม.และปริมณฑล) ภาคตะวันออก และภาคใต้
โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งอันดามันและภาคตะวันออก ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก
ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมแรง
ใช้รถใช้ถนนระยะนี้ต้องระวังฝนตกถนนลื่นเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
งานกลางแจ้งต้องเตรียมเต๊นท์ ออกนออกบ้านควรพกร่ม ชาวเรือ
ชาวประมงเดินเรือด้วยความระวัง เรือเล็กให้งดออกจากฝั่งช่วง 3-8 ก.ย.67
รายละเอียดต้องติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและเฝ้าระวัง
อย่างใกล้ชิด
ช่วง
8-11 ก.ย.67 แนวโน้มของฝนบริเวณประเทศไทยจะน้อยลงบ้าง
แต่ยังคงมีฝนบางระยะด้านรับมรสุม
นี้ยังอยู่ในช่วงฤดูท้ายๆของฤดูฝน มีเวลารับฝนประมาณเดือนเศษ ถ้าเป็นไปตามคาดการณ์
ภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบนฝนจะเริ่มเบาลงตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม
เว้นแต่จะมีพายุเคลื่อนผ่าน สำหรับพายุหมุนเขตร้อนต้องติดตาม
ล่าสุดในขณะนี้ทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์พายุดีชันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน"ยางิ"
(YAGI)"
แล้ว กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไปทางหัวเกาะลูซอน
และจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ต่อไป
ซึ่งจะช่วยดึงให้มรสุมที่พัดปกคลุมบ้านเรามีกำลังแรงต่อเนื่อง ส่วนฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นจากนี้ไปยังมาจากมรสุม
ร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา
06.00 น.วันนี้ ถึงเวลา 06.00 น.วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ตาก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย
บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี
ชัยภูมิ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34
องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี
สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
บริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้
ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา
: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา
และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่จังหวัดระนองขึ้นมา
: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดพังงาลงไป :
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด
24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว
10-20 กม./ชม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น