นิคมชุมชนเกษตร
โรงเรือนส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่รองรับการอพยพราษฎรบ้านดง เปิดตัวขึ้นเมื่อวันที่
15 พ.ค.67 ที่ผ่านมา เป็นการนำร่องส่งเสริมเกษตรกรรมแนวตั้ง (Vertical Farm) ปลูกผักปลอดสารพิษ และเกษตรอินทรีย์ 6
โรงเรือน เป้าหมายเพื่อสร้างรายได้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน รวมทั้งมีแผนในการขยายผลไปยังพื้นที่อื่นๆ
ที่มีศักยภาพใน อ.แม่เมาะ ต่อไป
นับว่าเป็นโมเดลการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนในพื้นที่ ที่อพยพมาจากถิ่นฐานบ้านเกิด มาใช้ชีวิตใหม่บนพื้นที่แห่งนี้
นายสุพรรณ ศรีสุวนนท์ พนักงานวิชาชีพระดับ 5 กล่าวว่า นิคมชุมชนเกษตร มีพนักงานจะมีอยู่ 9 คน คอยช่วยกันดูแล ทั้งโรงเรือนเกษตรแนวตั้ง และโรงเรือนเกษตรอินทรีย์ ที่นี่ปลูกเป็นผักอินทรีย์ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องได้รับการใส่ใจดูแล ไม่ว่าจะเป็นแมลงกินพืช โรคพืช และวัชพืชต่างๆ โดยจะพนักงานสลับสับเปลี่ยน ช่วยกันมาดูแลทุกวัน
โรงเรือนเกษตรแนวตั้ง |
ตอนนี้เป้าหมายของเราคือต้องการผลิตผักให้มีน้ำหนักต่อต้นเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ ส่วนในอนาคตมีแนวโน้มจะมีการขยายโรงเรือน และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ในส่วนของภาคการผลิต และปัจจัยอื่นๆ เช่น การทำปุ๋ยหมัก สารชีวภัณฑ์ เป็นต้น
ส่วนการจ้างงาน
เราจะจ้างคนในชุมชนเป็นหลัก เดิมชาวบ้านมีอาชีพทำนาและปลูกพืชผักสวนครัวกันมาก่อน
เมื่ออพยพมายังพื้นที่แห่งใหม่ก็อาจจะมีความกังวลว่าจะประกอบอาชีพอะไร การมีนิคมชุมชนเกษตรเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการจ้างงานชาวบ้าน ซึ่งตำแหน่งที่มีการจ้างงานมากที่สุด จะเป็นกลุ่มการย้ายกล้าและการเก็บเกี่ยว
อยู่ที่ 8-9 คน เนื่องจากต้องใช้การรวดเร็วในการจัดเก็บให้ผักคงความสดใหม่
ก่อนจะนำไปแพ็คและส่งออกขาย โดยจ้างรายวันอยู่ที่วันละ
400 บาท จะทำงานทั้งการเตรียมกล้า ย้ายกล้า ดูแลผัก ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต
นิคมชุมชนเกษตรเป็นการจ้างงานในชุมชน
อยากให้ทุกคนเข้ามาสนับสนุนชุมชน
นอกจากมาดูแปลงผักต่างๆแล้ว สามารถมาท่องเที่ยวชุมชนโดยรอบได้ ซึ่งรายได้จากการผลิตจะนำกลับคืนสู่ชุมชน
ว่าที่
ร.ต. ธนพงษ์พันธ์ เกี๋ยงแก้ว กำนันตำบลบ้านดง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรแนวตั้ง กล่าวว่า
หลังจากที่ชุมชนได้อพยพมายังพื้นที่แห่งใหม่ ก็มีความกังวลว่า
ชาวบ้านจะประสบปัญหากับอาชีพ และรายได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงได้มีการร่วมมือกับ
กฟผ.แม่เมาะและภาคีเครือข่าย มองหาสิ่งที่ทำแล้วเป็นประโยชน์ต่อทั้งตำบล เลยทำในเรื่องของโรงเรือนเกษตรอินทรีย์ขึ้นมา โดยมีการจ้างงานชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งจะมีลูกจ้างประจำอยู่ 5 คน มีเงินเดือนๆละ 10,000 บาท และยังมีลูกจ้างชั่วคราวที่เข้ามาช่วยดูแลการปลูกผักอีกกลุ่มที่จะสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาตามความสมัครใจ แม้ว่าเราจะจ้างงานได้จำนวนคนไม่มาก
แต่มองว่าเมื่อชาวบ้านมีรายได้ ก็จะนำเงินไปจับจ่ายซื้อของในชุมชน
และเกิดเงินทุนหมุนเวียนและการกระจายรายได้ไปสู่ชาวบ้านคนอื่นๆได้
เป้าหมายในอนาคตข้างหน้า
หากเราสามารถผลิตผักที่ได้มาตรฐานและตามออเดอร์ที่ตั้งเป้าไว้ หรือมีการผลิตผักเพิ่ม
ก็จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ชุมชนก็จะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน หากได้รับผลตอบแทนที่ดี
ก็จะมีเงินปันผลแบ่งปันให้สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจครบทุกครัวเรือน เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับคนในหมู่บ้าน
ในช่วงแรกนี้ผักปลอดสารพิษที่ผลิตจากนิคมชุมชนเกษตร
อาจจะยังส่งไม่ถึงผู้บริโภคใน จ.ลำปาง
เพราะเราส่งไปยังตลาดไทเพื่อให้กระจายสู่ตลาดให้ แต่หากว่าผลิตผักได้เพิ่มขึ้น เราจะมีวางจำหน่ายที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลำปาง เร็วๆนี้
ฝากชาวลำปางทุกคนช่วยอุดหนุนสินค้าของนิคมชุมชนเกษตร เพราะรายได้ส่วนหนึ่งเราจะนำกลับคืนสู่ชุมชนบ้านดง
นางแสงเดือน กันเอ้ย ลูกจ้างนิคมชุมชนเกษตร บ้านดง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ย้ายบ้านมาตนเองก็ยังไม่มีงานทำ เช่นเดียวกับชาวบ้านส่วนใหญ่ ที่มีอาชีพทำนา หากหมดฤดูทำนาก็ไม่ได้มีอาชีพอะไร แต่พอได้มาทำงานที่นิคมชุมชนเกษตร ก็เหมือนกับถูกหวย แม้เราไม่ได้เรียนจบอะไรมา แต่ก็มีเงินเดือนๆละ 10,000 บาท ไว้ช่วยจุนเจือครอบครัว
ด้านนางสมหวัง วงค์สุทะ ลูกจ้างนิคมชุมชนเกษตร บ้านดง กล่าวเช่นเดียวกันว่า ตอนแรกก็กังวัลว่าถ้าอพยพย้ายที่อยู่มาบนพื้นที่แห่งใหม่จะมีงานทำหรือไม่ เมื่อเห็นว่านิคมชุมชนเกษตรเปิดรับสมัครลูกจ้าง ตนจึงได้ลองเข้ามาสมัครดูและก็ได้งานทำ การทำงานต้องช่วยกันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ถอนวัชพืช ดูแลผักในโรงเรือน การทำงานอาจจะมีความยิบย่อยบ้าง แต่ไม่ได้เป็นงานที่เหนื่อยอะไร ซึ่งเรามองว่าหากผักขายดี ลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น ก็อาจจะมีการจ้างงานเข้ามาเสริม ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น รับรองได้ว่าผักที่นี่ปลอดสารพิษ เพราะพวกเราช่วยดูแลกันอย่างดี
และนี่คือเสียงจากตัวแทนชาวบ้านชุมชนบ้านดง ที่ได้รับโอกาส ในการทำงานร่วมกับ นิคมชุมชนเกษตร การันตีว่า ผักทุกต้นทุกใบที่ปลูกในโรงเรือนแห่งนี้ สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ อีกทั้งยังเป็นแหล่งสร้างงานสร้างรายได้ชั้นดีให้กับชาวชุมชนบ้านดง
เพราะนิคมชุมชนเกษตร บ้านดง เป็นธุรกิจเพื่อชุมชน โดยชุมชนอย่างแท้จริง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น