กว่าจะเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ออกดอกเหลืองบานสะพรั่งเต็มพื้นที่
250 ไร่ หมุดหมายสำคัญที่ดึงดูดให้ชาวลำปางและนักท่องเที่ยวได้เข้ามายลโฉม 1
ปีมีเพียงครั้งเดียวในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมของทุกปี
กฟผ.แม่เมาะ จะต้องดำเนินการอะไรบ้าง
และการเกิดขึ้นทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้ มีความเป็นมาอย่างไร
ลานนาโพสต์จะพาทุกท่านไปรับทราบเรื่องราวที่น่าสนใจนี้พร้อมๆกัน
- ดอยแม่อูคอต้นทางทุ่งบัวตองแม่เมาะ
นายสตางค์ หัสนันท์ วิทยากรระดับ 7 แผนกปฏิบัติการฟื้นฟูสภาพเหมือง กฟผ.แม่เมาะลำปาง... เล่าความเป็นมาของทุ่งบัวตองว่า แผนกของเราได้รับมอบหมายว่าจะมีการปรับปรุงพื้นที่ทิ้งดินฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ หัวหน้าแผนกในปี 2545 มีแนวคิดว่าน่าจะหาพันธุ์ไม้เข้ามาปลูกในที่ทิ้งดินเพื่อเป็นการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมในขณะเดียวกันก็อยากให้มีความสวยงามด้วย ในช่วงเวลานั้นที่ทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน กำลังได้รับความนิยม ทีมงานจึงได้มีการประสานงานขอกล้าพันธุ์ดอกบัวตองจากดอยแม่อูคอ มาจำนวน 30 ท่อน นำมาเพาะและขยายพันธุ์ที่อำเภอแม่เมาะ ใช้เวลากว่า 6 เดือน จึงนำไปปลูกในแปลงทดลองบนพื้นที่ทิ้งดินของเหมืองแม่เมาะ
- ใช้เวลา 8 ปี ขยายเต็มพื้นที่ 250 ไร่
นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2545 ที่ กฟผ.แม่เมาะ ได้เริ่มทดลองปลูกดอกบัวตองที่ได้มาจากดอยแม่อูคอ บนพื้นที่กว่า 50 ไร่ พบว่าดอกบัวตองจากดอยแม่อูคอ เมืองที่มีภูมิอากาศเย็น สามารถเติบโตบนดินจากการขุดเหมืองแม่เมาะ และทนสภาพอากาศที่ร้อนได้เป็นอย่างดี นับตั้งแต่วันนั้น กฟผ.แม่เมาะ จึงค่อย ๆ ขยายการปลูกดอกบัวตองจนเต็มพื้นที่250 ไร่ ในปี 2552 มาจนถึงปัจจุบัน
- กว่าจะลงตัวพบปัญหามากมาย
ในช่วง 2-3 ปี แรกของการปลูกมี สตางค์เล่าว่า ถูกวัว ควายของชาวบ้านเข้ามาทำลายพื้นที่ปลูกดอกบัวตอง จึงหาวิธีป้องกันโดยทำรั้วขึ้นมา และขยายแนวรั้วจนครอบคลุมป้องกันสัตว์เหล่านี้ นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญในเรื่องการบำรุงดิน เนื่องจากพื้นที่ปลูกดอกบัวตองเป็นดินที่มาจากการขุดเหมือง ทำให้ดอกบัวตองเจริญเติบโตได้ไม่ค่อยดี ที่ผ่านมาเราได้ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี เข้ามาช่วยในการปรับปรุงดิน และบำรุงต้น-ดอกมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบัน กฟผ.แม่เมาะ ได้นำฮิวมิคซึ่งมีธาตุอาหารในดินสูงมาใช้ในการปรับคุณภาพการปลูกดอกบัวตอง
ส่วนสภาพอากาศที่อำเภอแม่เมาะไม่ได้มีปัญหามากนัก
แต่หากเทียบกับดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน ที่เราได้ต้นพันธุ์ดอกบัวตองมา ที่นั่นจะมีความชื้น
และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า ทำให้ดอกบัวตองดอยแม่อูคอนั้นมีดอกใหญ่ และบานได้นานกว่า
ส่วนทุ่งบัวตอง ที่กฟผ.แม่เมาะ สูงจากระดับน้ำทะเลเพียง 500 เมตร ทำให้ดอกบัวตองของเราดอกเล็กกว่า แต่มีความสวยงามไม่แพ้กัน
ดอกบัวตองที่แม่เมาะ จะเริ่มบานตั้งแต่ปลายตุลาคม จนถึงช่วงธันวาคม
และด้วยการบริหารจัดการการลงแปลงปลูก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาชื่นชมความสวยงามของทุ่งบัวตองได้ประมาณ
2 เดือน
ซึ่งเมื่อเทียบการเดินไปดอยแม่อูคอ
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เส้นทางมีความคดเคี้ยวค่อนข้างมาก ทุ่งดอกบัวตอง ที่กฟผ.แม่เมาะ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปชมทุ่งดอกไม้
เนื่องจากการเดินทางสะดวกกว่า นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา สวนพฤกษชาติเหมืองแม่เมาะ
และสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ที่มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา อีกทั้งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อขอมาแคมป์ปิ้ง
นอนดูดาวได้ ส่วนอำเภอแม่เมาะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ผาหอบ วัดรัตนคูหา ถ้ำผากล้วย ศาลหลักเมืองอำเภอแม่เมาะ ฯลฯ
เรียกได้ว่ามาวันเดียวเที่ยวไม่หมดแน่นอน
- เบื้องหลังทุ่งบัวตอง
คือหยาดเหงื่อของชุมชน
กว่าจะเป็นทุ่งดอกบัวตองที่ออกดอกเหลืองบานสะพรั่งเต็มทุ่ง
250 ไร่ ในแต่ละปี ต้องใช้เวลากว่า 6 เดือน ในการดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่ ตัดต้นแก่
ย้ายกล้าใหม่แทนต้นแก่ที่ตาย ตัดแต่งกิ่ง รดน้ำ ให้ปุ๋ย ตัดหญ้า ตัดวัชพืช เรียกได้ว่าทุ่งบัวตองแลนด์มาร์คของลำปาง
มาจากหยาดเหงื่อและแรงงานของคนในชุมชนที่ กฟผ.แม่เมาะว่าจ้าง โดยแต่ละปีจะมีการจ้างงานมากกว่า
200 คน สร้างรายได้หมุนเวียนจากการจ้างงาน ประมาณ 1.5
ล้านบาทต่อปี
นอกจากนี้ เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะที่จัดขึ้นทุกปี ก็เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอำเภอแม่เมาะ ทำให้ชาวแม่เมาะมีรายได้จากการค้าขาย เป็นการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ชุมชนอีกทาง
- ชาวบ้านดีใจมีงานมีรายได้
ลุงอบ สอนทิพย์ หนึ่งในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ต.แม่เมาะ เล่าให้ลานนาโพสต์ฟังว่า กฟผ.แม่เมาะให้ชาวบ้าน 5 ตำบล 44 หมู่บ้าน รวมกลุ่มตั้งเป็นกลุ่มผู้ใช้แรงงานตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป และไปจดทะเบียนรับรองที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ ซึ่งทุกปีจะมีการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานเข้ามาจับฉลากเพื่อรับการจ้างงานทำหน้าที่ดูแลบำรุงรักษาทุ่งดอกบัวตอง ซึ่งในปีนี้กลุ่มของตนได้รับงานตัดแต่งกิ่ง ตัดหญ้า กำจัดวัชพืชต่าง ๆ ดูแลดอกบัวตองบนพื้นที่ 25 ไร่ เข้าทำงานปีละ 3 รอบ ทำให้กลุ่มของเรามีรายได้ปีละ 80,000-90,000 บาท
-
รอยยิ้มของนักท่องเที่ยวคือความภูมิใจของชุมชน
ตั้งแต่มีทุ่งดอกบัวตอง
ได้เห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอำเภอแม่เมาะเป็นจำนวนมาก ในฐานะที่เป็นคนแม่เมาะ ที่ได้ดูแลดอกบัวตองในทุก
ๆ ขั้นตอน รู้สึกดีใจมากที่เห็นแขกต่างบ้านต่างเมือง เห็นชาวลำปางเข้ามาเที่ยวอำเภอแม่เมาะบ้านเรา
ได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนที่มาชื่นชม มาถ่ายรูปทุ่งบัวตอง ทำให้ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง
ภูมิใจที่ชาวบ้านได้เป็นส่วนหนึ่งของแลนด์มาร์คนี้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแม่เมาะ
มีนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศเข้ามาเที่ยวกันจำนวนมาก ทำให้เกิดรายได้ในพื้นที่
เพียงแค่ซื้อน้ำขวดเดียวก็ถือว่าเงินสะพัดในแม่เมาะบ้านเราแล้ว ลุงอบ กล่าว
- ปลายตุลา ดอกบัวตองบานเต็มทุ่ง
เนื่องจากปีนี้มีลำปางมีฝนตกชุกมากกว่าทุกปี
คาดการณ์ว่าดอกบัวตองแม่เมาะจะบานนานกว่าปีที่ผ่านมา โดยจะเริ่มบานช่วงปลายตุลาคม และดอกบัวตองจะบานเต็มที่
(Full Bloom) ช่วงต้นพฤศจิกายน ไปจนถึงปลายธันวาคม
เรียกได้ว่านักท่องเที่ยวสามารถมาชมความสวยงามของทุ่งบัวตองแม่เมาะได้ถึง 2
เดือนเลยทีเดียว
สำหรับปีนี้ เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะครั้งที่
20 จัดในวันที่ 8-10 พฤศจิกายน 2567 เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสทุ่งบัวตองของ กฟผ. ซึ่งเป็นแลนมาร์คของ
จ.ลำปาง มีกิจกรรมต่างๆมากมาย ทั้งสวนพฤกษชาติ และสวนเฉลิมพระเกียรติฯ
พร้อมรับนักท่องเที่ยว
จากดินที่ขุดออกจากการทำเหมืองแม่เมาะ ถูกนำมากองทับถมกันเป็นภูเขาลูกใหญ่ เนรมิตมาเป็นทุ่งดอกบัวตองที่สวยงาม กลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของลำปาง ต้องใช้เวลายาวนานกว่า 22 ปี ด้วยความร่วมมือระหว่างกฟผ.แม่เมาะ และชุมชนในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ ทุ่งดอกบัวตอง จะยังคงให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมความสวยงามเช่นนี้ในทุกปี และต้นพฤศจิกายน ถึงปลายธันวาคมนี้ ทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น