วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2567

"พิพัฒน์" ชงจ่ายเงินสงเคราะบุตรเพิ่ม 3,000 บาท


"พิพัฒน์" รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เสนอมาตรการสร้างแรงจูงใจให้แรงงานไทย "มีลูกเพิ่ม" จ่ายเงินสงเคราะห์บุตร จาก 1,000 เป็น 3,000 บาทต่อเดือนนาน 7 ปี โดยให้ส่งเด็กไปเลี้ยงดูในชนบท แก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในอนาคตที่ไทยเข้าสังคมผู้สูงอายุ

วันนี้ (14 ต.ค.2567) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงแนวคิดการให้เงินสงเคราะห์บุตรว่า การสงเคราะห์บุตร ของสำนักงานกองทุนประกันสังคม ก่อนหน้านี้ให้ 800 บาทต่อเดือน แต่ในปี 2568 ให้เพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน และผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการกองทุนประกันสังคมเรียบร้อยแล้ว แต่ส่วนตัวต้องการจะเพิ่มแรงจูงใจในการให้ผู้ใช้แรงงาน ตามมาตรา 33 มีบุตรเพิ่มอีก

รมว.แรงงาน ระบุว่า มีแนวความคิดจะเพิ่มประชากรให้กับประเทศ โดยคนไทย เพราะผู้ใช้แรงงานมีความกังวลว่า เมื่อคลอดบุตรแล้วจะมีภาระการเลี้ยงดูบุตร ทั้งการเรียนในสังคมเมือง มีต้นทุนที่ค่อนข้างสูง 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยอมรับว่าประกันสังคมต้องควักเงินอีกก้อนใหญ่ใหญ่ก้อนหนึ่ง แต่เป็นการสร้างความถาวร ให้กับแรงงานของประเทศไทยโดยการเพิ่มประชากรคนไทย ปัจจุบันนี้มีผู้ที่เกิดใหม่ กับผู้ที่เสียชีวิตไปไม่เท่ากัน ผู้เสียชีวิตมีมากกว่าคนที่เกิดใหม่


ดังนั้นคิดว่าประกันสังคมต้องสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ประกันตนว่าถ้าสามารถกําเนิดบุตรเพิ่มขึ้นหนึ่ง คนค่าเลี้ยงดูบุตรจะให้เพิ่มจาก 1,000 บาทต่อเดือน เป็น 3,000 บาทต่อเดือน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า มาตรการนี้ คือแนวความคิดที่ตกผลึกว่าการที่จะสร้างให้ประเทศไทยเรามีการสร้างประชากรเพิ่มขึ้น สำนักงานประกันสังคมเป็นส่วนที่สําคัญที่สุดและอยากจะเชิญชวนให้ผู้ใช้แรงงานได้มีบุตรเพิ่มขึ้น เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับแรงงานของประเทศไทย

ส่วนจะมีการกำหนดจำนวนบุตรหรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ประมาณการไม่ได้แล้วแต่ผู้ประกันตน ถ้าใครอยู่ในมาตรา 33 เราให้เลย 1 คน 2 คน 3 คน แล้วแต่

เหตุผลที่มาตรการนี้ ต้องส่งบุตรไปเลี้ยงในชนบทว่า สังคมชนบทจะได้เปรียบ เพราะต้นทุนการเลี้ยงดูบุตรในชนบทถูกกว่า ดังนั้นต้องสร้างจากชนบทกลับเข้ามาสู่เมือง จะสร้างจากเมืองไปสู่ชนบทยาก

นายพิพัฒ์ กล่าวว่า การเสนอนี้เป็นเพียงแนวความคิด ขายความคิดผ่านทางสื่อมวลชนบื้องต้น และเพื่อจะนําเข้าสู่บอร์ดประกันสังคมต่อไป

ส่วนตัวไม่มีอํานาจ ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปประชุมในบอร์ดประกันสังคม เป็นหน้าที่ประธานบอร์ด โดยปลัดกระทรวงแรงงาน จึงทําได้อย่างเดียวคือเอานโยบายฝากให้ท่านปลัดกระทรวง ไปหารือว่าเป็นไปได้หรือไม่

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์