พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ประชุมติดตามผลการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
.
“ปฏิบัติการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย” กำหนดให้ ตำรวจภูธรภาค 1 - 9, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมบูรณาการกับ เจ้าหน้าที่จากสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมปฏิบัติการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 พฤศจิกายน2567
.
ผลการปิดล้อมฯ ดังนี้ จำนวน 907 เครือข่าย
เป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น 3,146 จุดตรวจค้น ผู้ต้องหาตามหมายจับ 277 หมายจับ
• จับกุมคดียาเสพติด 4,642 คดี ผู้ต้องหา 4,784 คน
• จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 453 หมายจับ
• ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 44,202,186 เม็ด
• ไอซ์ 2,225 กก.
• คีตามีน 3.93 กก.
• เฮโรอีน 27.64 กก.
• ยาอี 1,222 เม็ด
• อาวุธปืน 241 กระบอก
• ตรวจยึดอายัดทรัพย์สินรวมมูลค่า 579,008,424 ล้านบาท
.
สำหรับการระดมปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในครั้งนี้ ดำเนินการกวาดล้างทั้งเครือข่ายรายใหญ่และรายย่อย เน้นการปราบปรามผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกับประชาชนในชุมชน ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนที่อยู่ในชุมชนว่า ผู้ค้ายาต้องอยู่อย่างหวาดผวา
.
อย่างไรก็ตามสถิติการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ห้วงตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 - 26 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ทั่วประเทศสามารถจับกุมผู้ค้าเสพติดได้ถึง 281,491 ราย ตรวจยึดของกลางยาเสพติดเป็น ยาบ้า 1,125,147,367 เม็ด, ไอซ์ 34,590 กก., เฮโรอีน 1,992 กก., คีตามีน 7,092 กก. และยาอี 239,343 เม็ด สามารถยึดอายัดทรัพย์สินที่รวมมูลค่ากว่า 12,640,409,374 บาท
.
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภา วันที่ 12 ก.ย.67 ว่าปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยจะเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิต และจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสกัดกั้นลำเลียงยาเสพติด ปราบปราม และยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายการขับเคลื่อนงานของตำรวจ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น